👁 ค้นพบหุ้นชนะตลาดเหมือนกับนักลงทุนมือโปรด้วยข้อมูลเชิงลึกจาก AI มหกรรมลดราคา Cyber Monday จะหมดเขตเร็ว ๆ นี้!รับส่วนลด

ขาขึ้นแพลเลเดียมยังไม่จบ..เตรียมขึ้นต่อในเดือนเมษาที่กำลังจะมาถึง

เผยแพร่ 31/03/2564 15:04
XAU/USD
-
GC
-
CL
-
PA
-
PL
-
XPD/USD
-

แม้ช่วงออกสตาร์ทตอนต้นปีจะไม่สวยเท่าไหร่ แต่ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาล่าสุดแพลเลเดียมได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าสามารถทำขาขึ้นได้มากกว่าสินค้าโภคภัณฑ์ชื่อดังอื่นๆ อย่างน้ำมันหรือว่าทองคำเสียอีก 

กำไรที่แพลเลเดียมนำกลับมาสู่นักลงทุนตลอดทั้งเดือนมีนาคมมากกว่าสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งสองประเภทและคาดว่าราคาของแพลเลเดียมจะปรับตัวขึ้นต่อด้วยในเดือนแห่งเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงนี้ ในขณะที่กำลังเขียนบทความอยู่ ราคาแพลเลเดียมปรับตัวขึ้นมาตลอดทั้งเดือนมีนาคมแล้ว 9% ในขณะที่เดือนกุมภาพันธ์สามารถปรับตัวขึ้นมาได้ 5%

อย่างไรก็ตาม ขาลงในช่วงเดือนมกราคมนั้นไม่ใช่แค่ไม่สวยเท่าไหร่ แต่ราคาแพลเลเดียมในเดือนนั้นปรับตัวลดลงไปมากถึง 10% และหากนับขาขึ้นที่เกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมก็เท่ากับว่าขาขึ้นที่เกิดขึ้นนี้คือการชดเชยชาลงในเดือนแรกของปี 2021 เท่านั้นเอง 

สิ่งที่ทำให้ราคาแพลเลเดียมสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้คือความต้องการแพลเลเดียมในฐานะโลหะประยุกต์ในกระบวนการท่อไอเสียของรถยนต์ ประเภทเบนซิน (Catalytic Converter) ทำหน้าที่แปลงมลพิษไอเสียรถยนต์ เช่น ไฮโดรคาร์บอน คาร์บอนมอนออกไซด์ ให้เป็นมลพิษที่น้อยลงก่อนปล่อยออกจากปลายท่อไอเสียสู่ชั้นบรรยากาศ 

บริษัทวิจัยเพื่อการลงทุน Capital Economics (CE) วิเคราะห์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าราคาแพลเลเดียมจะยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นเนื่องจากความต้องการรถยนต์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นี่คือหนึ่งในสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากวิกฤตโรคระบาดรูปแบบหนึ่ง 

แต่กระแสความต้องรถยนต์ที่กลับมานี้พ่วงมาด้วยเทรนด์รถยนต์พลังงานสะอาด สังเกตได้จากความต้องการแพลเลเดียมเพิ่มขึ้นในขณะที่ทองคำขาวหรือแพลตินัมปรับตัวลดลงทั้งๆ ที่เป็นส่วนประกอบในกระบวนการผลิตรถยนต์เหมือนกัน แต่เพราะทองคำขาวนั้นจะถูกนำมาใช้กับรถยนต์ดีเซลมากกว่าซึ่งก่อให้เกิดมลพิษและเป็นสิ่งที่ประเทศที่ให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาดไม่ต้องการอีกต่อไปแล้ว

“ส่วนตัวแล้วเราคิดว่าเทรนด์ความต้องการแพลเลเดียมที่สวนทางกับความต้องการแพลตินัมจะยังคงดำเนินต่อไปตราบใดที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจยังไม่สะดุด กราฟแพลเลเดียมจะสามารถขึ้นถึง $2,700 ต่อออนซ์ได้ก่อนสิ้นปี 2021 (ในขณะที่กำลังเขียนบทความ ตอนนี้ราคาอยู่ที่ $2,630) และจะสามารถขึ้นถึง $2,800 ได้ภายในปี 2022” - Capital Economics กล่าว

นอกจากนี้ CE ยังวิเคราะห์ต่ออีกว่า 

“ในทางกลับกัน เรามองว่าราคาของทองคำขาวจะร่วงลงสู่ $900 ต่อออนซ์ภายในก่อนสิ้นปี 2021 และ $800 ภายในปี 2022 ปัจจุบันราคาทองคำขาวมีราคาอยู่ที่ $1,180”

Nornickel บริษัทเจ้าของเหมือนแพลเลเดียมและทองคำขาวกล่าวว่า การผลิตทองคำขาวจะลดลงเหลือ 710,000 ต่อออนซ์ เนื่องจากการปิดเหมืองในสัปดาห์ที่แล้วเพราะมีปัญหาน้ำท่วม ในอดีต (ปี 2020) เหมืองนี้เคยผลิตแพลเลเดียมได้ 2,826,000 ออนซ์ คิดเป็น 40% ของกระบวนการผลิตแพลเลเดียมของทั้งโลก

ในขณะที่กำลังเขียนบทความนี้อยู่ ราคาซื้อขายแพลเลเดียมล่วงหน้าในตลาดนิวยอร์กสามารถขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ $2,535.50 ย่อตัวลดลงมาจากจุดสูงสุดตลอดกาล $2,748 เล็กน้อย นาย Eugen Weinberg นักวิเคราะห์จากธนาคาร Commerzbank วิเคราะห์ว่า

“ตอนนี้แนวรับที่ $2500 ได้กลายเป็นแนวรับสำคัญของแพลเลเดียมไปแล้ว และเพราะแพลเลเดียมมีปริมาณจำกัดเมื่อเทียบกับความต้องการใช้ในการทำเป็นส่วนประกอบท่อไอเสียรถยนต์ ดังนั้นราคาแพลเลเดียมจึงยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ”

ขาขึ้นของแพลเลเดียมกับเป้าหมาย $3,000

Sunil Kumar Dixit นักวิเคราะห์จาก SK Dixit ประเทศอินเดียวิเคราะห์กราฟแพลเลเดียมว่าในระยะสั้นราคาอาจจะพักฐานก่อนที่จะขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดของเดือนกุมภาพันธ์อีกครั้ง

“จากกราฟรายวันจะเห็นว่าราคาแพลเลเดียมตอนนี้วิ่งอยู่ในรูปแบบไซด์เวย์ การปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นกึ่งกลางของอินดิเคเตอร์โบลิงเจอร์ แบนด์ (20 SMA) หรือที่ราคา $2,477 นั้นอาจทำให้แพลเลเดียมวิ่งลงสู่เส้นค่าเฉลี่ย 50 EMA หรือที่ $2,435 และเส้นค่าเฉลี่ย 100 SMA ที่ $2,380”Palladium Futures Daily

“การมีราคาปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 50 EMA หรือที่ $2,435 จะยิ่งทำให้ขาลงมีน้ำหนักมากขึ้น กราฟอาจสามารถลงไปถึงเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ที่ราคา $2,301 ได้” Sunil กล่าวPalladium Futures Weekly

ในส่วนของแนวโน้มขาขึ้น Sunil กล่าวว่า 

“หากพิจารณากราฟแพลเลเดียมรายเดือนจะเห็นภาพใหญ่ของโซนพักตัวที่ $2,200 แต่ก็มีสัญญาณที่ทำให้เชื่อได้ว่าแพลเลเดียมมีโอกาสขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดที่ $2,748 และหากสามารถยืนเหนือระดับราคานี้ได้อย่างมั่นคง จะเป็นการเปิดประตูแห่งโอกาสสู่แนวต้าน $3,000 ทันที”

ในมุมมองของ Investing.com นั้นเรามีความเห็นว่าภาพรวมตลาดแพลเลเดียมล่วงหน้าในกราฟรายวันส่งสัญญาณให้ “เข้าซื้อ” ได้ เมื่อพิจารณาแนวรับแนวต้านจากเครื่องมือ Fibonacci แล้วพบว่ากราฟมีแนวต้านอยู่ที่ $2,641 $2,681 และ $2,746 ส่วนแนวรับกราฟมีอยู่ที่ $2,510 $2,470 และ $2,405 ตามลำดับโดยจุดกึ่งกลางระหว่างราคาทั้งสองฝั่งจะอยู่ที่ $2,576

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย