นี่คือสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับก๊าซธรรมชาติเหมือนกับโลกที่ไม่ได้ตั้งตัวว่าวิกฤตโควิดจะมาถึง ใครจะไปคิดว่าวันหนึ่งรัฐที่เป็นดินแดนแห่งคาวบอย มีภาพของความร้อนและเต็มไปด้วยกระบองเพชรจะต้องมาเจอกับความหนาวระดับอาร์ติกที่พัดเข้ามาจากทางตอนใต้ของประเทศจนทำให้รัฐเท็กซัสต้องตกอยู่ในพายุหิมะ สร้างความเสียหายให้กับธุรกิจพลังงานของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการผลิตน้ำมัน สื่อต่างๆ รายงานตรงกันว่าชาวเท็กซัสนับล้านคนต้องอดทนอยู่ในความหนาวเหน็บโดยไม่มีไฟ และพลังงานไฟฟ้าใช้ นี่คือพายุหิมะที่รุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปีที่รัฐเท็กซัสเคยเจอมา
ความเป็นไปได้ที่พายุหิมะจะเกิดยากพอๆ กับการแพร่ระบาดที่เราเจออยู่ตอนนี้
ความหนาวเหน็บที่เข้ามาส่งผลให้ความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น ราคาก๊าซธรรมชาติล่วงหน้าของบริษัทผู้ผลิตพลังงานบางแห่งสามารถปรับตัวขึ้นแตะ $4 ต่อหนึ่งล้านบีทียู (MMBtu) ได้แล้ว แม้แต่ราคาซื้อขายก๊าซธรรมชาติจาก Henry Hub ฟิวเจอร์สนับตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2021 - มีนาคม 2022 สามารถขึ้นยืนเหนือ $3 ได้ซึ่งความเป็นไปได้ของเหตุการณ์นี้ยากพอๆ กับการเกิดวิกฤตโรคระบาด
ครั้งสุดท้ายที่หุ้น Henry Hub สามารถขึ้นไปถึง $4 ได้ต้องย้อนกลับไปในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมในปี 2018 ตอนนั้นราคาสามารถปรับตัวขึ้นไปได้ประมาณ $4.50 เกือบขึ้นถึง $5 หากจะให้หุ้นของ Henry Hub วิ่งขึ้นไปถึง $4 กราฟต้องวิ่งขึ้นอีก 25% จากระดับราคาปัจจุบัน ความเร็วของขาขึ้นตอนนี้ขึ้นอยู่กับว่าสถานการณ์ในเท็กซัสต่อจากนี้จะรุนแรงได้อีกมากแค่ไหน ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ผู้ว่าการรัฐเท็กซัสได้ประกาศว่าก๊าซธรรมชาติที่ขนส่งผ่านท่อได้ถูกความเย็นทำให้ก๊าซแข็งตัวอยู่ภายในนั้น
ผู้จัดหาก๊าซธรรมชาติทั่วทั้งอเมริกากำลังเป็นกังวล
ต่อให้สถานการณ์ในรัฐเท็กซัสดีขึ้นทันทีตอนนี้ก็ไม่อาจทำให้บริษัทผู้จัดหาก๊าซธรรมชาติทั่วทั้งประเทศวางใจได้ ข้อมูลจากบลูมเบิร์กและเว็บไซต์ naturalgasintel.com เมื่อวันพุธระบุว่าการขุดก๊าซธรรมชาติขึ้นมาจากหลุมลดลง 72 หนึ่งพันล้านลูกบาศก์ฟุต ในขณะที่ข้อมูลจากสถาบันวิจัย NGI Director of Strategy & Research ระบุว่าไม่เคยเห็นตัวเลขการขุดลดลงมากขนาดนี้มาตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2017
การขาดแคลนก๊าซธรรมชาติในตอนนี้เพราะวิกฤตพายุหิมะ อาจทำให้กราฟของ Henry Hub ขึ้นยืนเหนือ $4 หรือไปไกลกว่านั้น สก๊อตต์ เชลตัน นักวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ซื้อขายสัญญาพลังงานล่วงหน้าของบริษัท ICAP วิเคราะห์ว่า
“การที่ราคาซื้อขายก๊าซธรรมชาติล่วงหน้าของ Henry Hub ขึ้นมายืนเหนือ $4 ได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วแสดงให้เห็นว่าสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติที่จะส่งมอบในเดือนมีนาคม (NGH21) กำลังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นและกราฟที่ต้องส่งมอบภายใน 11-15 วันกำลังจะปรับตัวขึ้นเหมือนกราฟ 6-10 วัน”
ความเห็นจากนักวิเคราะห์
บริษัทที่ปรึกษาด้านความเสี่ยงในการลงทุนก๊าซธรรมชาติ Gelber & Associates อธิบายสถานการณ์อุปสงค์อุปทานของตลาดก๊าซธรรมชาติในตอนนี้ว่า
“ความผันผวนในตลาดก๊าซธรรมชาติจะยังไม่จบลงง่ายๆ ตราบใดที่การผลิตก๊าซธรรมชาติยังอยู่ต่ำกว่า 75 หนึ่งพันล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน นี่เป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าจุดต่ำสุดในปี 2018 อีก คิดเป็นการหายไปของการผลิตถึง 20% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว”
ถึงกระนั้น สื่อหลายๆ แห่งประเมินว่าสถานการณ์ความหนาวเหน็บนี้กำลังจะเริ่มค่อยๆ ดีขึ้น เว็บไซต์ Naturalgasintel.com เขียนในบล็อกของพวกเขาว่า “เราได้ผ่านจุดที่หนาวที่สุดมาแล้วและสถานการณ์จะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงช่วงสุดสัปดาห์ แต่ในช่วงนี้ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะได้เห็นอุณหภูมิสวิงขึ้นลงเร็วอยู่ระหว่าง 0 องศาถึงระดับติดลบต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส”
แต่ NatGasWeather ก็ได้ออกมาเตือนว่า
“สถานการณ์พายุหิมะครั้งนี้ไม่อาจนิ่งนอนใจได้ เรายังคงต้องเตรียมตัวรับความหนาวเย็นไปอย่างน้อยจนถึงต้นเดือนมีนาคม”
ปริมาณก๊าซธรรมชาติคงคลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นักวิเคราะห์ที่อยู่ในวงการก๊าซธรรมชาติคาดว่าสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะรายงานตัวเลขปริมาณก๊าซธรรมชาติคงคลังเพิ่มขึ้น 252 พันลูกบาศก์ฟุตเทียบกับตัวเลขที่นับถึงสัปดาห์วันที่ 5 กุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 47% จาก 171 พันลูกบาศก์ฟุต หากตัวเลขนี้เป็นจริง นี่จะเป็นตัวเลขก๊าซธรรมชาติคงคลังเพิ่มมากที่สุดนับตั้งแต่ตัวเลข 359 พันลูกบาศก์ฟุตในปี 2018
อีกข่าวหนึ่งที่แย่งซีนก๊าซธรรมชาติในสัปดาห์นี้เป็นอย่างมากคือสถานการณ์ในก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เพราะหลังจากที่ผู้ว่าการณ์รัฐเท็กซัสประกาศให้ผู้ส่งออกพลังงานควบคุมการส่งออกเพื่อช่วยเหลือ ERCOT ก็ทำให้บริษัทผู้รับ LNG ปลายทางปรับลดความต้องการ LNG ลง นอกจากนี้ท่าขนส่งก๊าซ LNG หลายแห่งไม่สามารถส่งออกก๊าซออกจากชานชาลาได้ตั้งแต่วันจันทร์เพราะสถานการณ์พายุหิมะถล่ม