วิกฤตพายุหิมะในสหรัฐรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์! ตอนนี้นอกจากได้คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 20 รายแล้ว ยังคงทำให้ผู้คนกว่า 4 ล้านคนในเท็กซัสไม่มีไฟฟ้าใช้มา 4 วันแล้ว และคนที่มีไฟฟ้าใช้ก็ยังต้องจ่ายค่าไฟสูงกว่าปกติเกือบ 100 เท่า!
วิกฤตครั้งนี้เรียกได้เป็นวิกฤตระดับโลกเลยทีเดียว
1️. สภาพอากาศที่หนาวเย็นมากได้ส่งผลกระทบต่อ #แหล่งผลิตน้ำมัน หลายแห่ง จนการผลิตต้องหยุดชะงักไปกว่า 3 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือกว่า 30% ของการผลิตทั้งประเทศทีเดียว
2️. โรงกลั่นน้ำมัน ในสหรัฐหลายโรงก็ต้องหยุดกำลังการผลิตไปด้วย ทำให้อัตราการกลั่นลดลงถึงไปเกินกว่า 3 ล้านบาร์เรลต่อวันเช่นเดียวกัน (หายไปมากกว่าที่เราใช้ในประเทศไทยถึงเกือบ 3 เท่า)
3️. ส่งผลให้เช้านี้ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขึ้นมาสูงกว่าระดับเดียวกันในปีที่แล้วก่อนที่ไวรัสโควิดจะระบาดเสียอีก
น้ำมันเบรนท์ เทรดที่ 65.13 เหรียญต่อบาร์เรล
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI เทรดที่ 61.8 เหรียญต่อบาร์เรล
4️. โรงไฟฟ้า ขนาดรวมกันกว่า 43 gigawatts ในรัฐเท็กซัสยังคงไม่สามารถทำการผลิตไฟอยู่ในเวลานี้
5️. ตอนนี้มีบ้านเรือนกว่า 1.2 ล้านหลังในรัฐเท็กซัสที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ หรือเทียบได้ว่ามีผลกระทบต่อประชากรจำนวนกว่า 4 ล้านคนเลยทีเดียว
6️. มีรายงานว่าค่าไฟในรัฐเท็กซัส ที่ปกติอยู่ที่ 70 เหรียญสหรัฐต่อเมกะวัตต์-ชั่วโมง ดีดสูงขึ้นมากว่า 100 เท่ากลายเป็น 9,000 เหรียญสหรัฐต่อเมกะวัตต์-ชั่วโมงเลยทีเดียว !
7️. พายุนี้ยังส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วไม่ต่ำกว่า 21 ราย และต้องหยุดระงับการแจกจ่ายวัคซีนไวรัสโควิดอีกด้วย
8️. ประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาแล้ว
9️. นักวิเคราะห์คาดว่าอาจจะต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์ กว่าที่การผลิตน้ำมันและไฟฟ้าจะกลับสู่ระดับปกติ เพราะพยากรณ์อากาศยังคงบอกว่าอุณหภูมิจะยังหนาวจัดไปจนถึงสุดสัปดาห์หน้า
ติดตามข่าวสารการลงทุนที่น่าสนใจไปกับ Facebook fanpage ทันโลกกับTraderKP
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ Facebook fanpage ทันโลกกับTraderKP