แม้จะหยุดเนื่องในวันประธานาธิบดีหนึ่งวัน แต่เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังสามารถเปิดตลาดด้วยความคึกคักเช่นเคย ดัชนีหลักของประเทศอย่างดาวโจนส์ เอสแอนด์พี 500 แนสแด็กและรัสเซล 2000 ปรับตัวขึ้นทันทีที่การเปิดให้ทำการซื้อขาย นักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับวัคซีนต้านโควิดจากตัวเลขของผู้ที่ได้รับวัคซีนต้านแล้วทั่วโลก ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ยังฝากความหวังเอาไว้กับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่เช่นเคย
นอกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ แล้ว ตลาดหุ้นอื่นๆ ทั่วโลกก็ได้ปรับตัวขึ้นขานรับสถานการณ์เชิงบวกจากการฉีดวัคซีน หุ้นที่อยู่บนดัชนี MSCI World Index ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่สิบสองติดต่อกัน สร้างสถิติขาขึ้นที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2003 กลายเป็นจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่อีกหนึ่งรอบ ที่ฝั่งยุโรปดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้น 0.2% ต่อเนื่องจากขาขึ้นของวันจันทร์ 1.3% และยังวิ่งอยู่ใกล้กับจุดสูงสุดของปี
ขาขึ้นของดัชนี STOXX 600 มีแรงหนุนมาจากขาขึ้นของหุ้น BHP (LON:BHPB) ที่สามารถสร้างสถิติรายงานผลประกอบการที่ดีที่สุดในรอบเจ็ดปีได้ นี่คือบริษัทขุดเหมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกที่ได้รับอานิสงส์มาจากความต้องการแร่ในประเทศจีน นอกจาก BHP แล้ว ยังมีขาขึ้น 3.75% ของหุ้น Glencore (LON:GLEN) เป็นแรงสนับสนุนอีกแรง
ตลาดหุ้นจีนยังคงปิดทำการเนื่องในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวตรุษจีน ดังนั้นนักลงทุนจึงได้ย้ายไปลงทุนกับตลาดฮั่นเส็ง ของฮ่องกงจนทำให้ปริมาณการซื้อขายผ่านตลาดนี้เพิ่มขึ้น 1.8% สร้างจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2018 หุ้นที่ทำผลงานได้ดีที่สุดบนฮั่นเส็งเมื่อวานนี้ได้แก่ HSBC (HK:0005) และ Standard Chartered (HK:2888) นอกจากนี้แล้วดัชนีชื่อดังของญี่ปุ่นอย่างนิเคอิ ก็ได้ปรับตัวขึ้นอีก 1.3% มีราคาปิดยืนเหนือ 30,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1990 เช่นเดียวกับดัชนีของเกาหลีใต้อย่าง KOSPI ที่ปรับตัวขึ้นอีก 0.5% วิ่งอยู่ใกล้กับจุดสูงสุดล่าสุดที่ 3,212.22 จุด
ขาขึ้นล่าสุดของกราฟดัชนี KOSPI ถือเป็นการหลุดออกจากกรอบพักตัวของขาลง ตอนนี้นักลงทุนกำลังจับตาดูว่าราคาจะสามารถทำขาขึ้นใหม่ที่อยู่สูงกว่าจุดสูงสุดล่าสุดได้หรือไม่
กราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นสร้างจุดสูงสุดในรอบเกือบปี นักลงทุนกำลังพากันเทขายบอนด์เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณของอัตราเงินเฟ้อ การที่กราฟผลตอบแทนปรับตัวขึ้นนั้นหมายถึงว่าตลาดหุ้นก็จะยังคงสามารถอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นได้ต่อไป
ในขณะที่กำลังเขียนบทความอยู่ กราฟผลตอบแทนฯ อายุ 10 ปีกำลังขึ้นไปทดสอบส่วนบนสุดของกรอบราคาขาขึ้น หากกราฟสามารถหลุดกรอบราคาดังกล่าวขึ้นไปได้ ขาขึ้นของกราฟผลตอบแทนฯ ครั้งนี้จะยิ่งรุนแรงกว่าครั้งก่อนๆ
ดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่า ลงมาทดสอบจุดต่ำสุดในรอบห้าวัน
กราฟดัชนีดอลลาร์สหรัฐยังคงเลือกทางที่ต้องการจะไปไม่ได้ นักลงทุนฝั่งขาขึ้นเชื่อในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพราะเกิดรูปแบบหัวไหล่ (Head & Shoulder) ขึ้นในขณะที่นักลงทุนฝั่งปัจจัยพื้นฐานก็ยังเชื่อว่าดอลลาร์ต้องอ่อนค่าลงอีกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะต้องออกมาไม่ช้าก็เร็ว แต่การอ่อนค่าของดอลลาร์เมื่อวันจันทร์ก็ทำให้ทองคำปรับตัวขึ้นมาได้เล็กน้อย สวนทางกับแร่โลหะเงินที่ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่สามติดต่อกัน
หากพูดถึงสินทรัพย์ที่คานความเสี่ยงในตอนนี้คงมีแต่คนนึกถึงบิทคอยน์ แทนที่จะเป็นทองคำ ในขณะที่กำลังเขียนบทความอยู่ ราคาบิทคอยน์สามารถขึ้นไปแตะเป้า $50,000 ได้แล้วแต่ยังไม่สามารถขึ้นยืนเหนือระดับราคาดังกล่าวได้ หากนับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2021 มาจนถึงปัจจุบัน สกุลเงินบิทคอยน์ได้ปรับตัวขึ้นมาแล้ว 70% และขึ้นมาจากจุดสูงสุดตลอดกาลของปี 2017 แล้ว 250%
โลกเปลี่ยนไปแล้วเช่นเดียวกับนักลงทุนในยุคนี้เช่นกัน นักลงทุนยุคใหม่ไม่สนใจคำพูดของวอร์เรน บัฟเฟตต์อีกแล้วจึงไม่แปลกใจที่เราจะได้เห็นธนาคารชื่อดังอย่างมอร์แกน สแตนลีย์จะมีข่าวว่ากำลังพิจารณาถือครองสกุลเงินดิจิทัลบิทคอยน์เอาไว้เป็นสินทรัพย์สำรอง
ในขณะที่กราฟบิทคอยน์ยังปรับตัวขึ้นต่อไปและยังไม่มีท่าทีว่าจะลดความร้อนแรงลง แต่อินดิเคเตอร์อย่างเช่น ROC หรือ RSI ต่างส่งสัญญาณ overbought จนไม่รู้จะ overbought อย่างไรแล้ว ถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนว่ากราฟบิทคอยน์มีโอกาสที่จะพักตัวได้ทุกเมื่อ
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงไปอยู่ต่ำกว่า $60 ต่อบาร์เรลอีกครั้งสวนทางกับก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวขึ้นจากเหตุการณ์พายุหิมะเข้าถล่มรัฐเท็กซัสจนไฟฟ้าดับ สร้างผลกระทบกับโรงงานกลั่นน้ำมันและทำให้ความต้องการก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น
อินดิเคเตอร์ ROC ชีให้เห็นแล้วว่าขาขึ้นของราคาน้ำมันเริ่มอ่อนแรง แต่หากพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานแล้วพบว่ามีโอกาสที่ราคาน้ำมันจะทรงตัวอยู่บริเวณนี้เพราะการกระจายวัคซีนเริ่มส่งผลกระทบเชิงบวกมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
ก๊าซธรรมชาติปรับตัวขึ้นเป็นตัวที่สามติดต่อกัน สามารถยืนเหนือขาขึ้นของวันจันทร์ได้ การที่ราคาสามารถยืนเหนือกรองสามเหลี่ยมรูปธงได้ ยิ่งเป็นการยืนยันเส้นทางการไปต่อในขาขึ้นของก๊าซธรรมชาติ
เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจสำคัญ
- รายงานผลประกอบการของบริษทจอห์น เดียร์ (NYSE:DE) ในวันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ รายงานผลประกอบการของบริษัทเนสเล่ย์ (OTC:NSRGY) ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์และของบริษัทไดม์เลอร์ (OTC:DDAIF) ในวันที่ 2 มีนาคม
- การประชุมของรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของประเทศสมาชิกยูโรโซน
- รายงานผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ และตัวเลขยอดค้าปลีกในวันนี้
สรุปความเคลื่อนไหวในตลาดลงทุน
ตลาดหุ้น
- ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ล่วงหน้าปรับตัวขึ้น 0.1% ไปยัง 3949.88
- ดัชนี STOXX 600 ของยุโรปปรับตัวขึ้น 0.1% ไปยัง 419.92
ตลาดสกุลเงิน
- ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลง 0.25% ลงมายัง 90.24 จุด
- สกุลเงินยูโรเทียบดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้น 0.2% ไปยัง 1.2153
- สกุลเงินปอนด์เทียบดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้น 0.2% ไปยัง 1.3931
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเทียบเยนปรับตัวลดลง 0.1% ไปยัง 105.29
ตลาดบอนด์
- กราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีปรับตัวขึ้น 2 จุดเบสิสไปยัง 1.23%
- กราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปีปรับตัวขึ้น 1 จุดเบสิสไปยัง 0.115%
- กราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมันอายุ 10 ปีปรับลดลง 3 จุดเบสิสไปยัง -0.390%
- กราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหราชอาณาจักรอายุ 10 ปีขึ้นลงเล็กน้อย มีราคาอยู่ที่ 0.57%
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง 0.5% ลงมายัง $59.75 ต่อบาร์เรล
- ราคาก๊าซธรรมชาติปรับตัวขึ้น 0.4% ขึ้นไปยัง 3.080
- ราคาทองคำปรับตัวขึ้น 0.25% ขึ้นไปยัง $1,823.20 ต่อออนซ์