สรุป ราคาทองคํา วานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคําได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์แตะระดับตํ่าสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 90.23 และปรับตัวลงเป็น วันที่ 3 ติดต่อกัน ทังนี้ สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงตามการปรับตัวลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี หลังการเปิดเผยดัชนี CPI พืนฐานของสหรัฐที่ทรงตัวในเดือนม.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนธ.ค. และแย่กว่าทีนักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิมขึน 0.2% ในเดือนม.ค. นอกจากนี้ สกุลเงินดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่ยืนยันว่า นโยบายการเงินจะผ่อนคลายและเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับตํ่าต่อไป จนกว่าจะเห็นตัวเลขการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อฟื้นตัวอย่างยั่งยืน ก่อนที่จะตัดสินใจปรับลดวงเงิน QE พร้อมกันนี้ พาวเวลล์ยังระบุอีกว่า อัตราการว่างงานที่แท้จริงสหรัฐยังคงอยู่ใกล้ 10% ไม่ใช่ที่ระดับ 6.3% ตามรายงาน NFP ในเดือนม.ค. สถานการณ์ ดังกล่าวกดดันดอลลาร์ให้อ่อนค่าจนเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคําให้ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,855.26 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนทีราคาทองคําจะเกิดแรงขายทํากําไรสลับออกมา ด้าน กองทุน SPDR ถือครองทองลดลง -1.74 ตันสู่ระดับ 1,146.60 ตัน ในปี 2021 กองทุน SPDR ถือครองทองลดลง -24.14 ตัน สําหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผยจํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้ง แรกรายสัปดาห์ของสหรัฐ ขณะที่ปริมาณการซื้อขายทองคําในตลาดเอเชียอาจเบาบางกว่าปกติ เนื่องจากตลาดทองคําของจีนจะเริมปิดทําการในวันนี้เป็นวันแรกเนื่องในเทศกาลตรุษจีน และจะปิดทําการต่อเนืองไปจนถึงวันพุธหน้า
ราคาขยับขึ้นแต่ก็มีแรงขายทํากําไรสลับออกมา ขณะที่แรงซื้อดันราคาลดลง โดยราคาพยายามเคลื่อนไหวทรงตัวในกรอบ ซึ่งหากราคาทองคําไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,855 - 1,875 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ มีผลให้ราคาอาจปรับตัวลงมาเพื่อสร้างฐานราคา มีโอกาสเกิดแรงขายกลับลงมา โดยมีแนวรับในโซน 1,830-1,821 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คําแนะนํา เน้น เก็งกําไรในกรอบจากการแกว่งตัวหากราคาไม่สามารถยืนเหนือ 1,855-1,875 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เสี่ยงเปิดสถานะขาย โดยตัดขาดทุนหาก ผ่านแนวต้าน ใน โซน 1,875 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สําหรับการปิดสถานะขายเพื่อ ทํากําไรอาจพิจารณาดูบริเวณ 1,830- 1,821 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถยืนได้ให้ชะลอการเข้าซื้อคืนออกไป
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International