- บริษัทอะเมซอนจะรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2020 ในวันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์หลังตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด
- คาดการณ์ตัวเลขผลกำไร: $119,680 ล้านเหรียญสหรัฐ
- คาดการณ์ตัวเลขอัตราส่วนกำไรต่อหุ้น: $7.16
สิ่งที่นักลงทุนจะให้ความสนใจมากที่สุดเมื่อบริษัทค้าปลีกออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาอย่างอะเมซอน (NASDAQ:AMZN) จะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2020 ในช่วงเช้าของวันนี้ตามเวลาประเทศไทยคือต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจะสร้างผลกระทบต่อกำไรที่บริษัททำได้มากน้อยแค่ไหน
อะเมซอนนับได้ว่าเป็นไม่กี่บริษัทที่สามารถสร้างยอดขายถล่มทลายได้ในช่วงของการแพร่ระบาดเมื่อเดือนมีนาคมปี 2020 ยอดขายของอะเมซอนเพิ่มขึ้นเมื่อผู้คนถูกสั่งให้อยู่กับบ้านล็อกดาวน์ตัวเอง ทำได้เพียงสั่งสินค้าออนไลน์เท่านั้น ด้วยความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้นและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทำให้อะเมซอนจำเป็นต้องลงทุนกับการพัฒนาระบบส่งสินค้าของตนเองให้มีความรวดเร็ว สะดวกสบาย ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่สั่งปุ๊ปของต้องมาแทบจะทันที
นอกจากการปรับปรุงระบบและการบริการแล้ว สิ่งที่อะมซอนทำสวนทางกับบริษัทอื่นๆ ในช่วงโควิดคือบริษัทยังพยายามที่จะรักษาพนักงานเดิมเอาไว้ให้ได้และยังรับพนักงานใหม่เพิ่มด้วย อะเมซอนเชื่อว่าหากบริษัทสามารถซื้อใจพนักงานได้ เพิ่มค่าจ้าง ให้สวัสดิการที่ดี จะช่วยให้พนักงานตอบแทนบริษัทด้วยศักยภาพสูงสุดที่พวกเขามี ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา อะเมซอนเปิดเผยข้อมูลว่าตอนนี้บริษัทได้มีการจ้างพนักงานรวมแล้วทั้งสิ้น 1,125,300 คน (รวมพาร์ทไทม์) คิดเป็นสัดส่วนการเพิ่มขึ้นของพนักงาน 50% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2019
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจรายงานผลประกอบการในครั้งนี้มากนักเพราะเชื่อว่าอะเมซอนน่าจะสามารถทำยอดขายได้มากกว่าที่คาดการณ์อยู่แล้ว แต่สิ่งที่นักวิเคราะห์อยากเห็นคือต้นทุนมหาศาลของอะเมซอนนี้จะส่งผลกระทบต่อกำไรที่หามาได้ของบริษัทหรือไม่ นักวิเคราะห์บางส่วนเชื่อว่าสาเหตุที่หุ้นอะเมซอนไม่ขยับตัวไปไหนมากนักนับตั้งแต่สร้างจุดสูงสุดตลาดกาลที่ 3,531.45 เป็นเพราะบริษัทแบกต้นทุนที่มากเกินไป ล่าสุดหุ้นอะเมซอนมีราคาปิดอยู่ที่ 3,206.20 ปรับตัวขึ้นประมาณ 6% ในช่วงสามเดือนล่าสุด
การเติบโตของธุรกิจเทคโนโลยีคลาวด์
แม้จะต้องแบกต้นทุนที่สูง แต่อะเมซอนก็ยังมั่นใจว่ากำไรที่ได้จากการเป็นตัวกลางผู้ให้บริการคลาวด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง “อะเมซอน เว็บ เซอร์วิส (AWS)” จะยังสามารถสร้างกำไรให้บริษัทเป็นกอบเป็นกำและทำให้หุ้นอะเมซอนเติบโตได้ ในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ของปี 2020 กำไรของอะเมซอนเติบโตขึ้นจากบริการ AWS 29% ทั้งสองไตรมาส ไตรมาสที่ 1 ถือเป็นไตรมาสที่ AWS ทำกำไรให้บริษัทได้มากที่สุดโดยสามารถเติบโตได้ถึง 33%
นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของต้นทุนไม่น่าจะทำให้นักลงทุนระยะยาวรู้สึกเป็นกังวลเพราะ CEO บริษัทนายเจฟ เบโซสได้รายงานผลประกอบการกำไรเทียบขาดทุนโดยละเอียดให้กับผู้ถือหุ้นในทุกๆ ไตรมาสอยู่แล้ว นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ถึงยังประเมินว่าหุ้นอะเมซอนจึงยังอยู่ในระดับ “น่าซื้อ” โดยมีเป้าหมายภายในระยะเวลาสิบเดือนของหุ้นอยู่ที่ $3,831.77 คิดเป็นการปรับตัวขึ้นอีก 16% จากระดับราคาปัจจุบัน
โดยสรุปแล้ว
หุ้นของอะเมซอนยังถือเป็นตัวเลือกที่ดีเป็นอันดับต้นๆ ของนักลงทุนระยะยาวแม้ว่าจะปรับตัวขึ้นมาแล้ว 65% ในช่วงสิบสองเดือนล่าสุด ปัจจัยที่เคยสนับสนุนหุ้นอะเมซอนในปี 2020 จะยังคงสนับสนุนราคาหุ้นต่อไป ยิ่งอะเมซอนสามารถขยายธุรกิจคลาวด์ออกไปได้มากเท่าไหร่ ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทก็ยิ่งมีมากขึ้นแม้ว่าจะไม่ไล่พนักงานออกแม้แต่คนเดียวก็ตาม