สรุป ราคาทองคําวานนี้ ปิดปรับตัวเพิมขึ้น 13.71 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยยังคงได้รับแรงหนุนหลักจากการพุ่งขึ้นของโลหะเงิน วานนี้ นักลงทุนยังคงเข้าซื้อโลหะเงิน จนหนุนให้ราคา โลหะเงิน พุ่งขึ้นอีกกว่า 9% ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี จนกระตุ้นราคาทองคําให้พุ่งขึ้นตามสถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ราคาทองคําปรับตัวสูงขึ้นทดสอบระดับสูงสุดในระหว่างวันบริเวณ 1,871.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อย่างไรก็ดี การปรับตัวขึ้นของราคาทองคํายังเป็นไปอย่างจํากัด เนื่องจากราคาทองคํายังคงกับเผชิญกับแรงขายทํากําไรที่สลับออกมาเป็นระยะ ประกอบกับสกุลเงินดอลลาร์ ยังคงแข็งค่าขึ้นจากมุมมองที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัว และสหรัฐมีคืบหน้าในการฉีดวัคซีนต้าน COVID-19 ให้แก่ประชาชน ทั้งนี้ CDC ของสหรัฐเปิดเผยว่าประชากรในสหรัฐเกือบ 6 ล้านคนได้รับการฉีดวัคซีนต้าน COVID -19 ครบโดสแล้ว และตอนนี้มีประชากรมากกว่า 26 ล้านคนในสหรัฐที่ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส นอกจากนี้ สกุลเงินดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากการอ่อนค่าของสกุลเงินยูโรอ่อนค่า หลังจากวานนี้ เยอรมนีเปิดเผยยอดค้าปลีกทรุดตัวลงนั้น ทําให้ราคาทองคําลดช่วงบวกที่ทําในระหว่างวันลงมาปิดตลาดบริเวณ 1,860.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําลดลง -2.63 ตัน ขณะที่เช้านี้ ราคาทองคําอ่อนตัวลงทดสอบระดับตํ่าสุดในระหว่างวันบริเวณ 1,853.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามการร่วงลงของโลหะเงิน หลังจาก CME Group ประกาศเพิ่มเงินวางหลักประกันในการซื้อขาย Silver futures ในตลาด Comex เป็ น 16,500 ดอลลาร์/สัญญาจาก 14,000 ดอลลาร์/สัญญาโดยมีผลในวันที่ 2 ก.พ.
สําหรับวันนี้ ไม่มีกําหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ แต่แนะนําติดตามการเคลื่อนไหวของโลหะเงินอย่างใกล้ชิด
หากราคาทองคํายังคงพยายามยืนเหนือ 1,846-1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ มีแนวโน้มขึ้นทดสอบ 1,875 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าสามารถปรับขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านดัวกล่าวได้จะเกิดแรงซื้อตาม ขณะที่แนวต้านสําคัญจะอยู่บริเวณ 1,885-1,896 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คําแนะนํา หากราคาทองคําสามารถยืนเหนือ 1,846- 1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง สามารถรอการ ดีดตัวของราคาเพื่อขายทํากําไรบางส่วนหากไม่ผ่านบริเวณ แนวต้าน 1,875 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าฝ่าไปได้ให้รอขาย ที่แนวต้านถัดไป 1,885-1,896 ดอลลาร์ต่อออนซ์
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International