ขอขอบคุณภาพประกอบจาก: CQC
- กราฟราคาถั่วเหลืองทะลุกรอบราคาด้านบนขึ้น
- ค่าส่วนต่างของผลิตภัณฑ์ดิบ และสำเร็จรูปกระทบต่อความต้องการผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง
- ความต้องการถั่วเหลืองในประเทศจีนเพิ่มขึ้นแม้ว่าจะทำสงครามการค้ากับสหรัฐฯ อยู่ก็ตาม
- นี่คือพายุขาขึ้นที่สมบูรณ์แบบของราคาถั่วเหลืองหรือไม่?
นับตั้งแต่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนเริ่มขึ้น ถั่วเหลืองก็ถือเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรตัวหนึ่งที่ใช้เป็นตัวต่อรองระหว่างทั้งสองประเทศมาโดยตลอด ครั้งหนึ่งราคาถั่วเหลืองเคยขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดเอาไว้ที่ $10.71 ต่อบุชเชลเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2018 จากนั้นราคาซื้อขายถั่วเหลืองล่วงหน้าในตลาด CME และ CBOT ก็ลงมายังจุดต่ำสุดที่ $7.8050 ในเดือนพฤษภาคมปี 2019
สหรัฐอเมริกาคือประเทศผู้ผลิต และส่งออกถั่วเหลืองอันดับหนึ่งของโลกมาโดยตลอดโดยมีประเทศจีนเป็นลูกค้าเบอร์หนึ่ง ตั้งแต่จีนตัดสินใจซื้อถั่วเหลืองประมาณหนึ่งส่วนสี่ของผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรทั้งหมดของสหรัฐฯ ราคาซื้อขายเมล็ดน้ำมันถั่วเหลืองในสหรัฐฯ ก็ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในตลาดลงทุน ผู้เชี่ยวชาญในสินค้าโภคภัณฑ์มักจะใช้อัตราส่วนเทียบเคียงระหว่างราคาถั่วเหลืองกับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอื่นๆ เป็นตัวชี้วัดอุปสงค์อุปทานว่าเติบโตขึ้นหรือหดตัวลงในปีนั้นๆ ข้อมูลจากสำนักงานสำมะโนประชากรสหรัฐฯ ระบุว่าในทุกๆ ไตรมาสจะมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นไตรมาสละ 20 ล้านคน ในขณะที่ฝั่งอุปทานต้องรอดูว่าสภาพอากาศในแต่ละปีนั้นส่งผลกระทบต่อความสามารถในการเพราะปลูกขนาดไหน ยกตัวอย่างเช่นในปี 2012 สหรัฐอเมริกาต้องประสบปัญหาภัยแล้ง ปีนั้นราคาถั่วเหลืองสามารถขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดเอาไว้ที่ $17.9475 ต่อบุชเชล
หลังจากถั่วเหลืองลงมาสร้างจุดต่ำสุดในเดือนพฤษภาคมปี 2019 ราคาซื้อขายล่วงหน้าของถั่วเหลืองก็วิ่งเป็นกราฟไซด์เวย์โดยมีราคาอยู่ที่ประมาณ $9.50 ต่อบุชเชลมาตั้งแต่นั้น จนกระทั่งถึงเดือนสิงหาคมปี 2020 เราพบว่าราคาซื้อขายถั่วเหลืองมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเพราะสามารถขึ้นทะลุจุดสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2018 ได้สำเร็จในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หากสังเกตดีๆ จะพบว่าช่วงเวลาขาขึ้นดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกับฤดูเก็บเกี่ยวพอดี
กราฟราคาถั่วเหลืองทะลุกรอบราคาด้านบนขึ้น
ราคาซื้อขายถั่วเหลืองล่วงหน้าในตลาด CME และ CBOT ได้แสดงพฤติกรรมว่ากำลังจะปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่จุดต่ำสุดที่ $8.3575 ต่อบุชเชลในเดือนเมษายนแล้ว
จากกราฟรายสัปดาห์ด้านบน จะเห็นว่าราคาซื้อขายถั่วเหลืองล่วงหน้าสามารถขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดเอาไว้ที่ $10.8850 ในวันที่ 27 ตุลาคม ในขณะเดียวกันการซื้อขายพืชน้ำมันมีราคาอยู่ที่ $10.71 ซึ่งเหนือกว่าจุดสูงสุดของเดือนมีนาคมปี 2018 เมื่อพิจารณาจากอินดิเคเตอร์จะเห็นว่า RSI มีการปรับตัวขึ้นจนใกล้จะถึงโซน overbought แล้ว ในขณะที่อินดิเคเตอร์วัดความผันผวนรายสัปดาห์มีระดับตัวเลขอยู่ที่ 24.21% ใกล้กับจุดสูงสุดปี 2020 นี่ถือเป็นพฤติกรรมราคาสำคัญที่เกิดขึ้นในช่วงสุดท้ายของฤดูเก็บเกี่ยว
ค่าส่วนต่างของผลิตภัณฑ์ดิบและสำเร็จรูปกระทบต่อความต้องการผลิตภัณฑ์จากพืชถั่วเหลือง
ถั่วเหลืองถือเป็นพืชผลทางการเกษตรตัวหนึ่งที่สามารถใช้ประโยชน์ได้จากแทบทุกส่วนประกอบตั้งแต่กากไปจนถึงเมล็ดของถั่วเหลือง เกษตรกรสามารถใช้กากถั่วเหลืองมาผสมเป็นอาหารให้กับสัตว์เลี้ยงในขณะที่เมล็ดก็สามารถนำมาทำเป็นน้ำมันถั่วเหลืองได้ เมื่อค่าส่วนต่างระหว่างผลิตภัณฑ์ดิบ และสำเร็จรูปของถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น ย่อมจะหมายความว่ามีความต้องการถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น ในทางกลับกันเมื่อความต้องการลดลง ช่องว่าระหว่างความต่างนี้ก็จะกดตัวลดลงด้วย
จากกราฟส่วนต่างของผลิตภัณฑ์แปรรูปจากถั่วเหลืองด้านบนนี้ แสดงให้เห็นถึงค่าส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นจาก 54.25 เซนต์ในเดือนมิถุนายนเป็น $1.50 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การที่ค่าส่วนต่างมีราคาเพิ่มขึ้นหมายความถั่วเหลืองกำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นด้วย นี่คือขาขึ้นที่สามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่เป็นครั้งแรกได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2018
ความต้องการถั่วเหลืองในประเทศจีนเพิ่มขึ้นแม้ว่าจะทำสงครามการค้ากับสหรัฐฯ อยู่
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อน ประเทศจีนได้ทำการซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ เป็นจำนวนมหาศาล ทั้งหมดนั้นเป็นไปตามเงื่อนไขในสัญญาการค้าขั้นแรกที่ได้ตกลงกันไปเมื่อเดือนมกราคมปี 2020 ประเทศจีนมีความจำเป็นต้องเร่งผลิตสุกรขึ้นมาใหม่หลังจากที่ประเทศเจอโรคระบาดในสุกรปี 2019 ข้อมูลตัวเลขจาก USDA ที่รายงานการส่งออกถั่วเหลืองในระหว่างปี 2020/2021 ระบุว่าเมื่อวันที่ 17 กันยายนประเทศจีนได้ซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ รวมแล้วทั้งสิ้น 19.241 ล้านตัน เทียบกับข้อมูลระหว่างปี 2019/2020 ที่มีการซื้อขายเพียง 2.0549 ล้านตันเท่านั้น
โดยปกติแล้วจีนไม่ได้ซื้อถั่วเหลืองกับสหรัฐฯ เพียงประเทศเดียว พวกเขายังทำมาค้าขายกับประเทศบราซิลด้วย แต่เพราะปีนี้ทวีปอเมริกาใต้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ประกอบกับสภาพอากาศไม่เป็นใจ ทำให้จีนต้องหันไปพึ่งพาการซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ มากเป็นพิเศษแม้ว่าหน้าฉากแล้วทั้งคู่จะดูเหมือนว่ากำลังทะเลาะกันอย่างรุนแรงอยู่ก็ตาม
นี่คือพายุขาขึ้นที่สมบูรณ์แบบของราคาถั่วเหลืองหรือไม่?
เหตุผลที่ถั่วเหลืองจะขึ้นหรือไม่อันที่จริงแล้วหากได้ตามอ่านบทความของผม (ผู้เขียน) มาตลอดจะพบว่าเป็นเหตุผลเดียวกันกับที่สินค้าโภคภัณฑ์แทบทุกประเภทจะปรับตัวขึ้นในปีหน้า เมื่อสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกประกอบกับภัยโรคระบาดเทียบกับจำนวนประชากรที่ยังคงเพิ่มขึ้นทุกปีทำให้อุปทานมีไม่เพียงพอต่ออุปสงค์
นอกจากนี้การอ่อนค่าลงของดอลลาร์สหรัฐ การเพิ่มสภาพคล่องจากธนาคารกลางแทบทุกประเทศบนโลก และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังจะออกมาอีกในอนาคตยิ่งจะทำให้กำลังในการซื้ออ่อนลง เมื่อกำลังการซื้ออ่อน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ก็ย่อมที่จะปรับตัวสูงขึ้นและถั่วเหลืองก็ไม่มีข้อยกเว้น
หลังจากที่ราคาถั่วเหลืองสามารถทำจุดต่ำสุดใหม่ที่สูงกว่าจุดต่ำสุดก่อนหน้าซึ่งเป็นสัญญาณขาขึ้นได้ในเดือนที่แล้ว การทะลุระดับแนวต้านราคา $10.71 ขึ้นไปทำให้มีโอกาสที่ราคาจะขึ้นไปยัง $12.0850 ต่อบุชเชลซึ่งเป็นจุดสูงสุดในเดือนมิถุนายนปี 2016 ได้