ภาพรวมการลงทุนวันนี้– เราคาดว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้ (27 ส.ค.) มีโอกาสเคลื่อนไหวในกรอบ Side-way เพื่อรอดูผลการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ขณะที่ความขัดแย้ง ระหว่างสหรัฐฯ และจีน จะยังเป็นปัจจัยจ ากัด Upside ของ ตลาดหุ้นไทย อย่างไรก็ตามระยะกลาง เราเริ่มเห็น Valuation ของตลาดหุ้นไทยที่เริ่ม Laggard เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในภูมิภาค ประกอบ กับอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลที่เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นจังหวะที่ดีต่อการเข้าทยอยสะสม หุ้นรอบใหม่ เรายังคงเน้นหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว หุ้น Defensive และหุ้นที่ให้ปันผลสูง ตาม Theme Investment ของเรา
ติดตามการประชุม "แจ็กสันโฮล" เริ่มวันนี้ - การประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่เมือง แจ็กสัน โฮลในวันที่ 27-28 ส.ค. ในหัวข้อ "Navigating the Decade Ahead: Implications for Monetary Policy" ประเด็นที่น่าติดตามอยู่ที่การกล่าวปาฐกถาของประธานเฟด เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ เกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟด และแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยสัปดาห์ก่อนหน้านี้ Federal Reserve มีการเปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลาง สหรัฐฯ (FOMC) ระหว่างวันที่ 28-29 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยคณะกรรมการเฟดยังมีมุมมองเชิงลบ ต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จากความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของโควิด-19
ขณะที่แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังขึ้นอยู่กับพัฒนาการของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนสูง จนนำไปสู่การทบทวนการปรับกรอบการดำเนินนโยบายระยะยาว และเห็นว่าการใช้มาตรการ Yield Curve Target อาจยังไม่เหมาะสมกับภาวะปัจจุบัน โดยนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ วันที่ 27 ส.ค. เวลา 20.10 น. ตามเวลาไทย
ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นในกรอบจำกัด ต้องเริ่มระมัดระวังแรงขาย - รายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ระบุปริมาณสำรองน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง 4.7 ล้านบาร์เรลใน สัปดาห์ที่ผ่านมา (สิ้นสุดวันที่ 21 ส.ค.) เป็นการลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 และลดลงมากกว่าที่คาด ขณะที่สถานการณ์เฮอร์ริเคนมาร์โคและพายุโซนร้อนลอราในอ่าวเม็กซิโก ยังคงส่งผลกระทบ
อย่างไรก็ตามกรอบการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบเริ่มจำกัด จากความกังวลของการเติบโตของความต้องการใช้น้ำมันดิบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มกลับมาแพร่ระบาดในหลายประเทศที่สามารถควบคุมได้ก่อนหน้านี้ เราประเมินว่าปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น สะท้อนไปในราคาหุ้นกลุ่มพลังงานมากพอสมควร จึงเริ่มให้ระมัดระวังแรงขายทำกำไร
ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ยังคงกดดันภาพรวมการลงทุน – ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และ จีน ทั้งประเด็นการเมืองและการค้าระหว่างประเทศ จากประเด็นล่าสุดที่เกิดขึ้นในทะเลจีนใต้ หลังจีนยิง ขีปนาวุธลงในเขตน่านน้ำที่มีกรณีพิพาท หลังพบเครื่องบินสอดแนมของสหรัฐฯ ขณะที่สหรัฐฯ ล่าสุด ประกาศรายชื่อเพิ่มอีก 24 ชื่อเข้าสู่กระบวนการคว่ำบาตรทางการค้า รวมทั้งออกข้อจำกัดด้านวีซ่าต่อชาวจีนบางกลุ่ม เรามองเป็นลบต่อภาพรวมการลงทุน
รายงานสถิติทางด้านเศรษฐกิจที่สำคัญวันนี้ - รายงานเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะมีการรายงาน GDP ในช่วง 2Q63 (ตลาดคาดว่าจะลดลง 32.5%QoQ) ยอดขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือน ก.ค. (คาดจะเพิ่มขึ้น 1.5%MoM) และตัวเลขการยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ (Initial Jobless Claims)
มุมมองทางเทคนิค - เราคาดว่า SET Index วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,315-1,332 จุด (มีแนวรับ อยู่ที่ 1,320 1,315 และ 1,307 จุด และมีแนวต้านอยู่ที่ 1,327 1,332 และ 1,340 จุด) หุ้นแนะนำทางเทคนิควันนี้ได้แก่ SAWAD RBF TRUE BTS และ AWC
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities