วานนี้ ดัชนี CSI 300 ของจีน ปรับตัวลงมากกว่า -4.8% ภายในวันเดียว พร้อมดัชนีตลาดหุ้นตัวอื่นอย่าง Shanghai Composite, SZSE Component ซึ่งการปรับฐานครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ทางการจีนเพิ่งประกาศตัวเลข GDP 2/2020 ไปในตอนเช้า
มีอะไรบ้าง ที่นักลงทุนต้องรู้เพื่อประกอบการตัดสินใจหลังจากนี้ เรามาดูไปพร้อมๆกัน
1. ตัวเลข GDP ไตรมาส 2/2020 ที่ประกาศออกมาตอนเช้า ถือว่าออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ โดยขยายตัว +3.2% (YoY) ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 2.5% (YoY) และบวก +11.5% (QoQ) เทียบกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 9.6% (QoQ) ก็ถือว่าดีกว่าเช่นเดียวกัน
2. แต่ด้านตัวเลขค้าปลีก (Retail Sales) เดือน มิ.ย. กลายเป็นว่าลดลง -1.8% (YoY) แย่กว่าคาดว่าจะเพิ่มขึ้น +0.3% (YoY) ตรงนี้ก็อาจสะท้อนได้ว่า การบริโภคในประเทศจีน อาจแรงส่งมาไม่ถึงไตรมาส 3/2020 หรือเปล่า?
3. เข้าไปดูตัวเลขค้าปลีกรายหมวดสินค้า ก็พบว่า หมวดที่ลดลงก็คือ พลังงาน, ร้านอาหาร, รถยนต์ และ เครื่องประดับ สะท้อนว่าความเต็มใจคนจีนในการใช้จ่ายนอกบ้าน อย่างกินอาหารในภัตตาคาร ไปค้างคืนที่โรงแรมรวมถึงสิ้นค้าฟุ่มเฟือยอื่นๆ ยังไม่ฟื้นตัว แต่อีกด้านก็มีมุมที่น่าสนใจ เพราะหมวด เครื่องสำอาง (เศรษฐกิจแย่ขนาดไหน ขอให้ฉันสวยไว้ก่อน) เครื่องดื่ม (กินข้าวแพงไม่ไหว ขอดื่มน้ำอะไรที่อร่อยกว่าน้ำเปล่าก็ยังดี) และอุปกรณ์สื่อสาร (เทคโนโลยีสำคัญมากในชีวิตฉัน) ขยายตัวได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับหมวดอื่น ในช่วงเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา
4. จากข้อ 3. หมวดสินค้าที่ยอดขายโตได้ดีในเดือนมี.ค. ถึง เม.ย. คือ พลังงาน และ รถยนต์ ซึ่งเหตุผลสนับสนุนก็เพราะ ช่วงต้นของการเปิดเมือง คนจีนยังกังวลกับการใช้ชีวิตปกติไปกับขนส่งสาธารณะ เลยยอมที่จะซื้อรถยนต์ส่วนบุคคลมาขับแทน มันก็เลยเร่งให้การใช้น้ำมันนั้นสูงขึ้นไป ยิ่งราคาน้ำมันเฉลี่ยในไตรมาส 2/2020 มันต่ำลงเยอะมาก ก็ยิ่งทำให้คนยินดีจ่ายเพิ่มขึ้น
5. ลองเข้าไป Breakdown GDP ของจีนในไตรมาส 2/2020 ที่ประกาศออกมาเพิ่มอีกซักหน่อย จะพบว่า การฟื้นตัวเกิดขึ้นเพราะรัฐบาลจีนลงทุนหลายๆทาง อย่าง สร้างทางหลวงและทางรถไฟ และโครงการ Infrastructure อีกจำนวนมาก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชดเชยการหายไปของการบริโภคภายในประเทศ และการส่งออกที่ยังไม่ฟื้นตัว และวิธีการนี้ ยังทำให้เกิดคำถามว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนจะยั่งยืนจริงหรือ?
6. ซึ่งถ้าดูจากการที่ตลาดหุ้นจีนปรับฐานมากกว่า -4% ในวันนี้ ก็พอจะบอกได้ส่วนหนึ่งว่า นักลงทุนในจีน กังวลว่า GDP ที่ยังโตได้ มาจากการพึ่งพากระตุ้นของภาครัฐบาลเป็นส่วนใหญ่ และกลัวว่า รัฐบาลอาจจะผ่อนคันเร่งลงในอนาคต
7. ข้อมูลอีกด้านที่สะท้อนว่า เศรษฐกิจจีนยังจะเผชิญความท้าทาย ถึงแม้ GDP Growth จะเป็นบวกได้ในไตรมาส 2/2020 ก็คือ ช่วงที่จีนประกาศ Lockdown เดือนธ.ค. - ม.ค. ที่ผ่านมา ทำให้แรงงานชาวจีนหลายสิบล้านคน ออกจากงานตามเมืองใหญ่ไปใช้ชีวิตในบ้านเกิด หรือตามชนบท เพื่อฉลองเทศกาลตรุษจีน แต่พอผ่านเทศกาลไป คนงานจำนวนมากก็ยังคงว่างงาน เนื่องจาก ภัตตาคาร, โรงแรม และโรงงานส่งออกหลายแห่ง ไม่ได้กลับมาจ้างคนเท่าก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 ดังนั้น ส่วนหนึ่งของอำนาจการซื้อในจีนเอง ก็หายไปจากเหตุการณ์นี้ด้วยเหมือนกัน
8. อีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้ GDP ของจีนในไตรมาส 2/2020 ดีขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาด ก็เพราะ ในเดือนเมย. และ พ.ค. จีนการนำเข้าน้อยลง (ในแง่มูลค่า) เนื่องจากราคาน้ำมัน, ทองแดง และสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ ราคาปรับตัวลดลงรุนแรง เลยทำให้จีนเกินดุลการค้า ทั้งๆที่ภาคการส่งออกก็ยังหดตัวอยู่ ซึ่งการเกินดุลการค้าแบบนี้ มันเป็นปัจจัยบวกต่อ GDP เพิ่มเติมอีกด้วย
แต่ๆๆๆ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้ ปรับตัวพุ่งสูงขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนั้น GDP ในไตรมาส 3/2020 น่าจะไม่ได้ประโยชน์จากการประหยัดเพราะการนำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์ในราคาถูกอีกก็ได้นะครับ (ถ้าราคามันไม่ลงมาให้เห็นอีกรอบ)
9. อีกประเด็นที่อาจจะจุดชนวน Panic Sell ให้เกิดขึ้นในตลาดหุ้นจีนวันนี้ก็คือ ตอนช่วงกลางวันสื่อใหญ่ของจีนอย่าง People’s Daily รายงานว่า บริษัท Kweichow Moutai ซึ่งมี Market Cap ใหญ่สุดในดัชนี CSI 300 ถูกอ้างถึงว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่บริษัทขาย ถูกตรวจสอบพบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้เป็นการรับสินบนทุจริต และยิ่งข่าวนี้ถูก Broadcast ผ่าน App Wechat ของจีนอีกด้วย ก็เลยทำให้นักลงทุนรายย่อย Panic และแห่ขายหุ้น Moutai จนวันนี้ปิดลบไปถึง -8%
10. ในมุมมองทางเทคนิค ดัชนี CSI 300 มีแนวรับอยู่ที่ Fibonacci Retracement 61.80% ที่ระดับ 4,464 จุด (Downside Risk จากตรงนี้อีก -1%) และใกล้เคียงกับเส้นค่าเฉลี่ย 20 วัน หากหลุดจุดนี้ลงไป ใครมีหุ้นจีนอยู่ในพอร์ต อาจพิจารณาลดความเสี่ยงไปก่อน
แต่ถ้าไม่ลงมาหลุดแนวรับนี้ นี่ก็อาจเป็นจังหวะที่ดี สำหรับใครที่เชื่อว่า ความสำเร็จของจีนในการจัดการกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จนอยู่หมัด จะทำให้เศรษฐกิจจีน แข็งแกร่งกว่าประเทศอื่นๆที่วันนี้ยังเจอกับเวฟ 2 ของการระบาดกันถ้วนหน้า ก็แปลว่า นี่คือ โอกาสสะสมต่อไปในระยะยาวครับ
แหล่งที่มาข้อมูล :-
https://www.ft.com/con…/4a0f9dca-b48c-453f-bfc1-2c6c8b55682a
https://www.cnbc.com/…/china-economy-beijing-reports-q2-202…
https://www.bloomberg.com/…/china-s-biggest-stock-moutai-si…
Mr.Messenger รายงาน
บทความนี้ได้รับการเผยแพร่ครั้งแรกบนเพจ MrMessengerDiary