เมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย นายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้สั่งการให้ทุกเขตในรัฐ ปิดธุรกิจในส่วนของการบริการภายในร่มทั้งหมด เช่น ร้านอาหาร โรงภาพยนต์ พิพิธภัณฑ์ สถานออกกำลังกาย รวมถึงห้างสรรพสินค้า ฯลฯ หลังการแพร่ระบาดภายในรัฐยังคงเพิ่มขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ว่ายังได้แถลงว่าใน 24 ชม. ที่ผ่านมาในพื้นที่มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอีก 8,358 คน ทำให้มีผู้ป่าวยสะสมเป็นจำนวน 329,162 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 7,040 คน ทำให้ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา โรงพยาบาลในรัฐมียอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นถึง 28% ซึ่งรัฐแคลิฟอร์เนียถือเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดในระเทศ จึงส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวลถึงสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโควิด-19 ในสหรัฐจะมีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง ซึ่งอาจจะนำไปสู่การสั่งปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหมด
โดยรัฐแคลิฟอร์เนียมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของประเทศ (คิดเป็น 15% ของ GDP’19) และมีการจ้างงานภายในรัฐกว่า 19 ล้านตำแหน่ง ซึ่งแหล่งเศรษฐกิจ สำคัญของประเทศเนื่องจากเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมบันเทิงอย่างฮอลลีวูด รวมถึงเป็นมีที่ตั้งของ ซิลิคอนแวลลีย์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของบริษัทเทคโนโลยี และ นวัตกรรมขนาดใหญ่ของโลก เช่น Apple (NASDAQ:AAPL), Google (NASDAQ:GOOGL),Facebook ฯลฯ
เช้าวันนี้สิงคโปร์รายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ปี 20 (QoQ) หดตัวกว่า 41.2% และ 12.6% (YoY) ซึ่งอุตสาหกรรมการก่อสร้างได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยหดตัวลงกว่า 96% (QoQ)
ในวันนี้แนะนำติดตามดัชนีภาคการผลิตอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเดือนพ.ค. (ตลาดคาด หดตัวลง 8.4% เท่ากับเดือนก่อนหน้า), การเปลี่ยนแปลงจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการ ว่างงานของอังกฤษเดือนมิ.ย. (ตลาดคาดอยู่ที่ระดับ 400K น้อยกว่าครั้งก่อนที่ระดับ 528K), ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษเดือนพ.ค. (MoM) (ตลาดคาดขยายตัวที่ ระดับ 8% สูงกว่าเดือนก่อนที่หดตัวที่ระดับ 24%)
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ cgsec.co.th
กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้