คาด SETINDEX สัปดาห์นี้เคลื่อนไหวกรอบ 1370 – 1400 โดยคาดวันอังคาร ดัชนีมีโอกาสขึ้นทดสอบบริเวณ 1390 ตามการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลกใน วันจันทร์ที่ผ่านมา โดยตลาดเลือกให้น้้าหนักกับประเด็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โลกหลังจีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อภาคบริการประจ้าเดือน มิ.ย. ออกมา ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดกอปรกับสหรัฐก็ได้รายงานภาคแรงงานที่ดีกว่านักวิเคราะห์ คาดส่งผลให้ตลาดเลือกที่จะมองข้ามตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID19 ทั่วโลกที่ยังเร่งตัวขึ้น
ความเห็นเรามองว่าระยะสั้นปัจจัยข้างต้นจะเป็นบวกจิตวิทยาต่อ Global Play อาทิ น้้ามัน (PTT (BK:PTT) PTTEP) ปีโตรเคมี (PTTGC SCC) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP) อิเล็กทรอนิกส์ (HANA KCE) รวมถึงหุ้นมีรายได้จากจีน (CBG TASCO TKN) อย่างไรก็ตามการปรับตัวขึ้นของดัชนียังมอง Upside จ้ากัดเนื่องจากปัจจุบันเชิง Valuation ค่อนข้างตึงหากมองก้าไรปี 20 ซื้อขายที่ Forward PE สูงถึง 21x สูงสุดในรอบประวัติการณ์และหากมองไปยังกำไรปี 21 จะซื้อขายราว 16.7x ใกล้เคียง +1SD ในรอบ 12 ปีดังนั้นจาก Valuation ทั้งปีนี้และปีหน้าบ่งชี้ว่าการ ฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกถูกสะท้อนไปในราคาพอสมควรแล้ว ดังนั้นความเสี่ยงจาก นี้คือผลประกอบการในครึ่งปีหลังไม่เป็นไปตามคาด หรือ หลังจากงบ 2Q20 ออก แล้วนักวิเคราะห์กับผู้บริหารมีการพบปะกันปรากฎว่า Outlook ยังดูไม่ดีเท่าไรอาจนำมาซึ่งความผิดหวังและส่งผลให้ดัชนีปรับฐานรุนแรงได้
ส้าหรับปัจจัยในประเทศ เชื่อว่าการบริโภคของไทยผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วง 2Q20 สะท้อนจาก (1) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยทำการ สำรวจฟื้นตัวต่อเนื่อง 2 เดือนติดต่อ (2) รัฐบาลผ่อนปรนให้ประชาชนออกมาใช้ ชีวิตได้ใกล้เคียงกับระดับปกติหนุนการบริโภคฟื้นตัวต่อเนื่อง (3) ตัวเลขการ เดินทางของประชาชนใน กทม. กลับผ่านการใช้บริการทางด่วน และ รถไฟฟ้าของ BEM เข้าสู่ระดับใกล้เคียงปกติดังนั้นยังมองกลุ่มอิงรายได้ในประเทศ (BJC CPALL (BK:CPALL) CRC CPN HMPRO SABINA) อยู่ในจุดน่าทยอยสะสมซึ่ง Valuation ซื้อขายเพียง 26.5x Trailing PE ต่่ำสุดในรอบ 4 ปี
Weekly Strategy: นักลงทุนที่เน้นลงทุนระยะสั้น และ รับความ เสี่ยงได้สูงแนะ น้้ำมัน (PTT PTTEP) ปีโตรเคมี (PTTGC SCC) โรง กลั่น (BCP SPRC TOP) อิเล็กทรอนิกส์ (DELTA HANA KCE) ส่วนนักลงทุนรับความเสี่ยงต่ำจังหวะปรับตัวขึ้นเป็นโอกาสลดพอร์ต อย่างไรก็ตามมองค้าปลีก BJC CPALL CRC CPN HMPRO SABINA ทยอยสะสมเพื่อลงทุนระยะกลางขึ้นไปได้
HANA (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 32 บาท) มองบริษัทจะเป็นผู้ได้ ประโยชน์จากเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัว เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้ในจีน ราว 18% ขณะเดียวกันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจะเป็นปัจจัย กระตุ้นอุปสงค์ของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ด้านผลประกอบการปีนี้ อาจจะไม่สดใสมากนักคาดว่าก้าไรสุทธิจะหดตัว 21%YoY อย่างไรก็ ตามปีหน้าฟื้นตัวแรง 62%YoY กอปรกับบริษัทมีความแข็งแรงทาง ธุรกิจด้วยเงินสดสุทธิ 8.5 พันล้านบาทในปี 19 (39% Market Capitalization)
TASCO (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 28 บาท) บริษัทจะเป็นผู้ได้ประโยชน์ จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้การส่งออก ไปยังประเทศจีนราว 30% ขณะที่ในประเทศอุปสงค์ยางมะตอยจะเริ่ม เพิ่มขึ้นตามปัจจัยหนุนจากการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ นอกจากนี้ ยังมีอีกปัจจัยหนุนคือ ส่วนต่างผลิตภัณฑ์ยางมะตอยกับน้้ามันเตา กำมะถันสูง (HSFO) ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 42 $ / ton (+60%QoQ) เป็นปัจจัยบวกต่อผลประกอบการ
บทวิเคราะห์จาก Country Group Securities