แน่นอนครับไม่ว่าเราจะทำอะไร เป็นจริงเป็นจัง เราย่อมคาดหวังผลสำเร็จ การเทรด การลงทุนก็เช่นกัน เราเข้ามาในตลาดการเงินนี้ เราย่อมหวังผลกำไร ผลตอบแทน ที่อย่างน้อยๆก็ควรจะได้มากกว่ารายได้ที่เคยได้มา
หลายๆคนได้เห็นความสำเร็จของเทรดเดอร์ ที่ได้บอกเล่า ในสือสังคมออนไลน์ในช่องทางต่างๆ ในรูปแบบต่างๆ แต่อย่าเข้าใจผิด หรือ อย่าปล่อยให้ตัวเองโดนสังคมหลอกลวง คำว่า “สำเร็จ” ให้ผิดเพี้ยนไป อย่าไปมัวต่อมองเรื่องราวต่างๆ แล้วบอกว่า Super Car นี่คือความสำเร็จ กระเป๋าแพง คือความสำเร็จ หรือได้ไปที่เที่ยวสวยๆ หรู แล้วก็ไปให้ความหมายว่า นี่คือความสำเร็จ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ความสำเร็จ มันคือผลพลอยได้ของความสำเร็จ
ความสำเร็จพวกนี้เราจะไม่มีทางเห็นใน สื่อออนไลน์ ใน instagram / facebook มันคือภาพของความสำบาก ความมานะ ความมีวินัย และความเป็นตัวของเราเอง
“ความสำเร็จไม่ได้วัดในสิ่งที่คุณมี แต่วัดในสิ่งที่คุณเป็น”
วันนี้คุณเป็นคนอย่างไร หากแม้วันนี้เราจะเทรดได้เงินมามากมายเพียงใด แต่ถ้าเราไม่รู้จักบริหารเงิน เงินเหล่านั้นก็จะถูกเราละลายไปจนหมด
ข่าวดีคือ เราสามารถฝึกฝน และเรียนรู้เพื่อเป็นคนๆนั้น ที่เรียกว่าประสบความสำเร็จได้
เริ่มต้นจากถามตัวเองว่า “ถ้าเราประสบความสำเร็จ เราจะเป็นคนแบบไหน” ไม่ใช่ว่า “เราจะต้องมีอะไร”
สำหรับผมแล้ว “ความสำเร็จ” นั้น ไม่มี “เส้นชัย”
เมื่อถึงแล้วก็จะพัฒนาต่อยอดไปเรื่อยๆ ผมคิดเสมอว่าเมื่อใดหยุดพัฒนาแสดงว่าเรากำลังเริ่มถอยหลัง
ผมมักจะถามตัวเองอยู่เสมอๆว่า “เราจะเป็นเทรดเดอร์ที่ดีขึ้นได้อย่างไร” ทุกๆครั้งที่ถามเราจะเริ่มมองหาและจะพบหนทางเพื่อพัฒนาตนเองไปเรื่อยๆ
เช่น หากเพิ่งเริ่มเข้ามาเทรด ถามคำถามนี้ ก็จะได้คำตอบว่า ฝึกบริหารการเงิน มีวินัย วิเคราะห์อารมณ์ของตลาดได้
เมื่อ ได้กำไรเล็กๆน้อยๆ ถามคำถามนี้ใหม่ ก็จะได้คำตอบว่า หาทางจำนวน cutloss ให้น้อยลง และ ถือ order ให้ยาวๆขึ้น
และเมื่อไปอีกขั้น ถ้าเป็นเทรดเดอร์ที่ดี ก็ต้องถ่ายทอดให้ผู้คน มีการแบ่งพอร์ต อะไรต่างๆนานา
ซึ่งคำตอบของคำถามนี้ ย่อมแตกต่างกันออกไปแล้วแต่สิ่งที่เราให้ความหมายของคำว่าเป็นเทรดเดอร์ที่ดีขึ้นได้อย่างไร
ความสำเร็จนั้นย่อม หนีไม่พ้น กับการตั้ง เป้าหมาย มีทั้งระยะยาว ระยะกลาง และ ระยะสั้น ผมให้ความสำคัญของระยะเวลานั้นเท่ากันหมด เพราะ เป้าหมายระยะยาวจะช่วยให้เรามีทิศทางที่ไกลขึ้น แต่เป้าหมายระยะสั้นเหมือนหมุดยึดโยง ความก้าวหน้าของเรา ไปทีละขั้น
สำหรับผมแล้ว ผมจะตั้งเป้าหมายเล็กๆย่อยๆ เป็นรายวัน เพื่อสร้างความสำเร็จให้เกิดขึ้นได้รายวัน เช่น จะต้องไม่ Over Trade ให้ได้ หรือ เทรดให้ได้กำไรอย่างน้อยๆ 10 เหรียญ อ่านหนังสือเล่มนี้ให้จบ เป็นต้น
เมื่อเราทำได้แล้วอย่าลืมขอบคุณตัวเอง ขอบคุณคนที่ช่วยเหลือเรา ซึ่งเป็นการให้ความหมายของความสำเร็จในทุกๆวัน มันเหมือนกำลังใจ เหมือนน้ำหล่อเลี้ยง ให้เรามีแรงใจในการพิชิตเป้าหมายทุกๆวัน ไปจนถึงเป้าหมายใหญ่ๆ ที่เราตั้งใจไว้ได้
แล้วหน้าตาความสำเร็จของเทรดเดอร์ เป็นอย่างไร
จากประสบการณ์ของผมเอง และ ที่คุยกับเทรดเดอร์ที่เก่งๆ หลายท่านนั้น
ถามว่าเทรดแม่นทุกๆครั้งไหม
“ไม่เลย” แต่เขารู้จุดที่ต้อง cutloss ไม่มียื้อ
ถามว่ายังล้างพอร์ตไหม
“มีแน่นอน” แต่เขาแบ่งพอร์ตออกมาหลายๆพอร์ต เงินในพอร์ตที่ล้าง เป็นแค่เศษเสี้ยวของเงินที่เอามาเทรดทั้งหมด
เขาไม่ให้ความหมายกับการ cutloss / ล้างพอร์ต นี้ว่า “ล้มเหลว” แต่เป็นเรื่องของการ “ฝึกฝน” “เรียนรู้” และถามเสมอว่า ถ้าจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก ต้องแก้ไขอะไร
สิ่งหนึ่งที่พวกเขามักยึดเสมอๆคือ การบริหารการเงิน การฝึกฝน พัฒนาระบบเทรด เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา
สุดท้ายผมพบว่าพวกเขาเหล่านั้นใช้ชีวิต สมถะ ทั้งนั้น ต่างจากที่เราคิดไว้มาก ซึ่งเป็นหัวใจหลักที่ทำให้เขาหลุดพ้นเรื่องของเงินกับอารมณ์ และยิ่งเป็นตัวส่งเสริมทำให้การเทรดนั้นดียิ่งๆขึ้นไปอีก
ถ้าผมนั่งเทรดข้างๆเขา ผมไม่มีทางรู้เลยว่าตอนนี้เขาขาดทุนหรือกำไรเลย (ถ้าผมไม่ไปดูหน้าจอเขา) จะกำไร หรือ ขาดทุน จะไม่มีผลต่ออารมณ์ของเขาได้เลย เมื่อผลออกมาเป็นอย่างไร เขาก็จะเอามาเรียนรู้พัฒนาต่อ แต่ ถ้าเรามีอารมณ์เป็นที่ตั้งเมื่อจบแล้วอารมณ์ก็จะยังวนเวียนอยู่ในหัว ทำให้สติที่มีลดลง การเรียนรู้ก็จะไม่เต็มที่ เท่ากับการมีสติ 100%
ดังนั้นขอย้ำอีกครั้งครับว่า
“ความสำเร็จไม่ได้วัดในสิ่งที่คุณมี แต่วัดในสิ่งที่คุณเป็น”
เป็นกำลังใจให้ทุกๆท่าน บนเส้นทางการฝึกฝนนะครับ
บทความนี้จัดทำเลยเผยแพร่ครั้งแรกทางเพจ About Traders
บทความห้ามพลาด