ตลาดหุ้นสหรัฐกำลังกลับมาแตะระดับต้นปีแล้ว เสมือนไวรัสระบาดไม่เคยเกิดขึ้น ! สหรัฐยังมีคนตกงานเพิ่มอีก 2.12 ล้านคนในคืนนี้ แต่ตลาดหุ้นทะลุระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนไปแล้ว !
อาทิตย์นี้ถือเป็นอาทิตย์ที่ 10 ติดต่อกันแล้วที่ยอด Initial Jobless Claim หรือผู้ขอสวัสดิการตกงานประจำอาทิตย์ของสหรัฐออกมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยหากรวมตัวเลขในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมามีคนตกงานทะลุ 40 ล้านคนไปแล้ว !
แต่ตลาดหุ้นสหรัฐกลับยังคงไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามกันอย่างต่อเนื่อง ดัชนีหลักๆในสหรัฐที่เป็น Indicator หุ้นหลักของโลกไม่ว่าจะเป็น Dow Jones ยังคงยืนเหนือระดับ 25,000 จุด หรือ S&P 500 ยังคงอยู่เหนือ 3,000 จุด
ดัชนีหุ้นสหรัฐได้ดีดกลับขึ้นมาเกือบเท่าระดับที่เริ่มต้นปีแล้ว โดยตอนนี้กลายเป็นเหลือร่วงลงไปจากต้นปีเพียงแค่
ดัชนีหุ้น S&P500 ลง -3% จากเริ่มปีที่ 3,140 จุด คืนนี้อยู่ที่ 3,040 จุด
ดัชนีหุ้น Dow Jones ลง -8% จากเริ่มปีที่ 28,000 จุด คืนนี้อยู่ที่ 25,613 จุด
ดัชนีหุ้น Nasdaq 100 นั้น +9% ด้วยซ้ำ ! จากเริ่มปีที่ 8,600 จุด คืนนี้อยู่ที่ 9,430 จุด
ตลาดนั้นยืนอยู่ได้ ถึงแม้ว่า
1. จริงอยู่ว่าตัวเลขคงตกงานในคืนนี้นั้นออกมาเท่าๆกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้จึงไม่ได้ทำให้ตลาดหุ้นโดนเทขาย...
2. จริงอยู่ว่าเรื่องคนตกงานเป็นเรื่องที่ตลาดรับรู้ไปถึงอนาคตและหลายฝ่ายเชื่อว่าจะยังมีคงตกงานไปเรื่อยๆจนแตะระดับ 20-30% ของประเทศ (ตัวเลขคนตกงานจะประกาศอาทิตย์หน้าตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ 20% แล้ว...
3. จริงอยู่ว่าทุกวันนี้ด้วยการอัดฉีดเงินและสภาพคล่องของธนาคารกลางต่างๆทั่วโลก ดอกเบี้ยต่ำติดติดจนกลายเป็นลบอยู่หลายที่แล้วด้วย ทำให้นักลงทุนไม่แน่ใจว่าจะนำเงินไปไว้ที่ไหนนอกจากในตลาดหุ้นเพราะนั้นเป็นสิ่งเดียวที่กำลังให้ผลตอบแทนในตอนนี้
แต่หากเรามองย้อมมาดูในชีวิตจริง บริษัทที่โดนซื้อหุ้นไปเหล่านั้นจะสามารถทำกำไรได้ตามราคาที่นักลงทุนหลังหรือป่าว ? ตราบใดที่ผู้คนยังตกงานและไม่มีเงินมาใช้จ่ายได้เหมือนแต่ก่อน รายได้ของบริษัทจะมาจากไหนจริงๆ ? จะมีเงินกลับมาปันผลไหม ?
#ตลาดหุ้นกับโลกของความเป็นจริง จะยังคงสวนทางกันได้อีกนานแค่ไหน ?
หรือนี่คืออีกหนึ่ง "New Normal" ที่กำลังเกิดขึ้นในโลกที่มีสภาพคล่องและเงินเหลือล้นในตลาดมากเกินไป ?
ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดจากทีมงาน แนะนำให้กด Like ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของทีมเราที่อัพเดทใหม่ๆครับ
บทวิเคราะห์นี้เผยแพร่ครั้งแรกที่เพจ Oil Trading - ทันตลาดน้ำมันและเศรษฐกิจโลกกับ KP
ไม่อยากพลาดบทความดีๆ อย่าลืมกด "ติดตาม" นะครับ