ในที่สุดก็เข้าสู่เดือนพฤษภาคมกันอีกครั้ง
คำถามสำคัญก็คือ เดือนพฤษภาคมนี้ ตลาดจะเป็นอย่างไร ท่ามกลางสถานการณ์ที่ปั่นป่วน ชวนให้ตลาดผันผวนเสียเหลือเกิน
ตลาดจะวิ่งต่อบนความหวังการ Unlock ของทั่วโลก
หรือ เราควรจะขายทำกำไร แล้วไปไกลๆตลาด ดังคำกล่าวอันเลื่องลือที่ว่า "Sell in May and Go Away"
ซึ่งมีที่มาจากการที่่เดือนพฤษภาคมนั้น มักเป็นเดือนที่ให้อัตราผลตอบแทนไม่น่าพิศมัยเท่าใดนัก ที่อาจจะไม่โหดร้ายถึงขั้นติดลบรุนแรงทุกๆปี แต่ก็ไม่บวกแรงเหมือนช่วงเดือนอื่นๆ
ซึ่งหากพิจารณาจากผลงานตลาดหุ้นรายเดือนก็คงธรรมดาเกินไปเพราะปีนี้มีอะไรให้ลุ้นกันมากมายเหลือเกิน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อ 2 ดัชนีสำคัญของโลกอย่าง S&P500 และ NASDAQ Composite เพิ่งบวกแรงถึง 12.68% และ 15.44% ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 30 ปีเลยทีเดียว
สำคัญไปกว่านั้น เป็นการบวกท่ามกลางความกังวลการแพร่บาดของ COVID-19 เสียด้วย
สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆ ที่บวกกันแรงเหนือภาวะปกติกันพอสมควร
วันนี้เราก็เลยลองเอาสถิติที่น่าสนใจมาโชว์กัน
โดยมีเงื่อนไขคือ ดูว่าตลาดหุ้นหลักๆ นั้นมีการบวกมากกว่าภาวะปรกติ (1SD) กี่ครั้ง และกี่ครั้งที่ว่านั้นเดือนต่อมาเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อลองมาทำนายอนาคตกัน
ผลที่ออกมาก็ตามรูปที่นำเสนอเลย
1. (ท่อนล่างสุด) แทบทุกตลาดยกเว้น NIKKEI225 หากดัชนีบวกแรงมากกว่าภาวะปกติ เดือนต่อมามากกว่า 60% จะมีผลตอบแทนที่เป็นบวก
2. (ท่อนกลาง) อย่างไรก็ตามช่วงเดือนพฤษภาคมนั้น ยังคงเป็นเดือนที่มีการบวกแรงกว่าภาวะปรกติค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับเดือนอื่นๆ โดยมีเพียง Set Index เท่านั้นที่ผลออกมา 8.40% ขณะที่ดัชนีอื่นๆ อยู่ที่ 2-5% เท่านั้นเอง
ทำให้กลายเป็นการสู้กันระหว่าง ข้อที่ 1 ซึ่งอาจมาจาก Momentum ที่ยังเหลืออยู่จากเดือนก่อนหน้า ทำให้ตลาดบวกต่อได้อีกเดือน
กับข้อที่ 2 ที่ตลาดมักเจอแรงขายในเดือนพฤษภาคม จากการล็อคกำไร เพราะทราบผลประกอบการ และการได้ปันผลไปกันแล้ว
ซึ่งผลจะออกมาอย่างไร เราคงได้รู้กันเร็วๆ นี้
แต่ระหว่างนี้ ทุกท่านคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง ร่วมแชร์กันได้ครับ
#แอดลุง
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่เพจ AKN Blog
ดูความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก
https://th.investing.com/indices/major-indices
ดูหุ้นรายตัวของอเมริกา
https://th.investing.com/equities/americas
ดัชนีฟิวเจอร์สทั่วโลก