🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

ผลการประชุม FOMC เชื่อไม่ลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มแต่มี 3 คำถามสำคัญที่นักลงทุนต้องดู

เผยแพร่ 29/04/2563 14:58
GBP/USD
-
USD/JPY
-
AUD/USD
-
USD/CAD
-
NZD/USD
-
CL
-

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วงลงอย่างรวดเร็วก่อนทราบผลการประชุม FOMC และรายงานตัวเลข GDP วันนี้ นอกจากนั้นตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคก็ปรับตัวลดลงไปยังจุดต่ำสุดของดัชนีในรอบ 4 ปี หากถามว่าข่าวไหนจะทำให้ตลาดขยับตัวได้มากกว่ากันระหว่างรายงานตัวเลข GDP หรือผลการประชุม? คำตอบในครั้งนี้คงเป็นตัวเลข GDP ที่มีความสำคัญมากกว่าเพราะเชื่อว่าเฟดคงไม่คิดจะทำอะไรกับอัตราดอกเบี้ยอีกแล้ว แต่ตัวเลข GDP จะแสดงให้ตลาดได้เห็นว่าผลกระทบจากโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ นั้นหนักหนาสาหัสแค่ไหนและการหดตัวทางเศรษฐกิจจะมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์หรือไม่

สำหรับไตรมาสที่ 1 แล้วตอนนี้มาตรการปิดล็อคเมืองเหลือเวลาอีกเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น นักลงทุนจึงรีบเทขายสกุลเงินดอลลาร์ก่อนเพราะพวกเขาเชื่อว่าข้อมูลในไตรมาสที่ 2 จะต้องหนักกว่าของไตรมาสที่ 1 แน่ ไม่ว่าขนาดการหดตัวจะมากน้อยแค่ไหนเชื่อได้ว่าจะกลายเป็นสถิติใหม่ของประวัติศาสตร์การลงทุนนับตั้งแต่ปี 2011 และถ้าตัวเลข GDP ลดต่ำลงมาน้อยกว่า 1% แล้วจะกลายเป็นตัวเลข GDP ที่ปรับตัวลดลงมาหนักที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011 ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามสกุลเงินดอลลาร์จะดีดกลับขึ้นมาได้หากว่าตัวเลขอัตราการเติบโตของ GDP ลดลงมาแต่ยังไม่น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้ แต่เชื่อว่าการดีดตัวกลับขึ้นมาจะเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ เพราะตลาดยังคงเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะอยู่ในแนวโน้มขาลง หลังจากที่ทราบผลตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ ไปแล้วความสนใจของนักลงทุนในวันนี้จะหันไปที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)

หลังจากที่เฟดมีมาตรการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินเป็นอย่างมากในเดือนมีนาคม นักวิเคราะห์จึงคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ดังเดิมเพราะเป้าหมายในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาของเฟดคือการรักษาเสถียรภาพให้ตลาดหุ้นไม่ให้สวิงไปถึงวันละ 1000 จุดและเพิ่มสภาพคล่องให้กับระบบการเงิน ผลคือมาตรการเหล่านั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก นักลงทุนกลับมาเชื่อมั่นในตลาดสหรัฐฯ อย่างรวดเร็วและทุกคนต่างเฝารอดูตัวเลขอัตราการเติบโตฯ ดังนั้นสิ่งที่นักลงทุนควรจับตาดูในการประกาศนโยบายทางการเงินครั้งนี้ควรจะเป็น 3 คำถามใหญ่ๆ ดังต่อไปนี้

1. อัตราดอกเบี้ยของเฟดจะคงอยู่ในระดับต่ำไปอีกนานเท่าไหร่?
2. การหดตัวทางเศรษฐกิจเฟดประเมินไว้ว่าจะหดตัวมากแค่ไหน?
3. เฟดมีขั้นตอน มาตรการ นโยบายอื่นๆ รองรับไว้อีกหรือไม่?

นักลงทุนจะให้ความสนใจกับการคาดการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้ของเฟดเป็นอย่างมากโดยเฉพาะกับคำตอบของ 3 คำถามที่พูดถึงไป คงไม่มีใครคาดว่าจะได้เห็นเฟดจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในเร็ววันนี้แน่ เฟดเข้าใจดีว่าในไตรมาสที่ 2 เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากแค่ไหนดังนั้นอัตราการเติบโตจึงไม่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญแน่ สิ่งที่ทุกคนอยากได้ยินคงจะเป็นมุมมองของนายเจอโรม พาวเวลล์ประธานเฟดมากกว่าว่า “เขาคิดว่าเศรษฐกิจจะสามารถดีดตัวกลับมาได้อย่างรวดเร็วหรืออนาคตยังเต็มไปด้วยความไม่ชัดเจน?” ถ้าความเห็นของเขาออกมาเป็นในทิศทางบวกจะทำให้สกุลเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้น แต่ถ้าคำพูดออกมาเป็นทำนองเช่นว่า “มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นได้ช้า” กราฟ USD/JPY อาจมุ่งหน้าลงสู่ระดับราคา 106

นอกจากนี้นักลงทุนยังควรจับตาดูว่าเฟดจะคาดการณ์ตัวเลข GDP ไว้ว่าอย่างไรเพราะตัวเลขนี้จะแสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่เฟดเข้าไปซื้อสินทรัพย์หรือมาตรการต่างๆ ที่ได้ดำเนินการไปก่อนหน้านี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ตอนนี้ความเร็วในการเข้าซื้อตราสารหนี้ของธนาคารกลางฯ เริ่มช้าลงแล้วซึ่งหมายความว่าการกลับเข้าสู่สภาวะปกติใกล้จะเกิดขึ้นในไม่ช้า

สกุลเงินที่พึ่งพาการขึ้นลงอยู่กับสินค้าโภคภัณฑ์ยังคงปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์อย่างเช่นสกุลเงินออสเตรเลียดอลลาร์และนิวซีแลนด์ดอลลาร์ ทั้งสองประเทศกำลังจะกลับมาเปิดพื้นที่ทางเศรษฐกิจหลังจากประสบชัยชนะในการควบคุมโควิด-19 แม้ว่านักลงทุนส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับข่าวฝั่งสหรัฐฯ แต่ข้อมูลบัญชีการค้าของนิวซีแลนด์และอัตราเงินเฟ้อของออสเตรเลียก็สำคัญ เชื่อว่าในไตรมาสแรกของออสเตรเลียอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มสูงขึ้นซึ่งจะสอดคล้องกับเสถียรภาพของตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ถ้าเราคาดการณ์ถูกสกุลเงินออสเตรเลียดอลลาร์จะสามารถวิ่งขึ้นได้อีก 

รายงานตัวเลขบัญชีการค้าของนิวซีแลนด์ก็น่าจะออกมาดีขึ้นช่วยหนุนสกุลเงินนิวซีแลนด์ดอลลาร์ด้วย ส่วนกราฟ USD/CAD ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1.40 เพราะราคาน้ำมันดิบ ยังคงปรับตัวลดลงซึ่งกระทบต่อสกุลเงินดอลลาร์ สกุลเงินยูโรเทียบดอลลาร์ยังคงไม่สามารถขึ้นไปถึงระดับราคา 1.09 ได้และเรามองว่ากราฟจะปรับตัวลดลงด่อนที่ตลาดได้ทราบข้อมูลตัวเลข GDP ของยูโรโซนและผลการประชุมของธนาคารกลางแหง่สหภาพยุโรป ในวันนี้เยอรมันมีรายงานอัตราเงินเฟ้อและตัวเลขความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในยูโรโซน สกุลเงิน ปอนด์เทียบดอลลาร์ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยแม้ว่ารายงานการสำรวจการค้าปลีกค้าส่งจาก CBI จะออกมาลดลง

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย