ที่ผ่านมาตั้งแต่โควิด-19 ระบาดเราอาจจะเคยได้ยินคนพูดอยู่ตลอดว่า “เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังแย่” ซึ่งเราก็อาจจะฟังเป็นคำพูดลอยๆ ไปอย่างนั้น แต่ตอนนี้เราสามารถใช้คำว่า “เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังวิกฤต” ได้อย่างเต็มปากแล้วและไม่มีข่าวไหนแสดงความหายนะนั้นไปได้ดีกว่ารายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่พึ่งประกาศไปล่าสุดเมื่อคืนนี้ ตัวเลขจำนวนผู้ที่ขอยื่นรับเงินสวัสดิการว่างงานสูงกว่าตัวเลขของสัปดาห์ก่อนหน้า (ที่ว่าสูงแล้ว) มากขึ้นอีก 1 เท่าตัวด้วยจำนวน 6.6 ล้านคน นี่คือรายตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการฯ ที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ตลอดกาลเลยก็ว่าได้และยังสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นจริงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในตอนนี้ รายงานตัวเลขนี้หักปากกานักวิเคราะห์ที่แต่เดิมก็มองว่าตัวเลขที่ออกมาคงจะแย่ลง กราฟ USD/JPY ปรับตัวลดลงทันทีในขณะที่ AUD/USD และ NZD/USD ก็ร่วงลงด้วยเช่นกัน
ดัชนีดาวโจนส์เปิดตลาดเมื่อคืนนี้ด้วยความเยือกเย็นเหมือนตลาดรู้อยู่แล้วว่าสถานการณ์ในตอนนี้คงมีแต่คำว่า “แย่” กับ “แย่มาก” เท่านั้น ปฏิกริยาของนักลงทุนในตลาดเมื่อวานนี้ที่มีต่อรายงานผู้ขอรับสวัสดิการฯ ไม่ได้ทำให้รู้สึกประหลาดใจเท่าไหร่ ตอนนี้นักลงทุนเริ่มนับถอยหลังแล้วว่าข้อมูลในภาคอื่นๆ คงจะเริ่มออกมาเป็นลบตามๆ กันแต่ที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือข้อมูลจากคลาดแรงงาน ตัวเลขในเชิงลบเหล่านี้เมื่อนำมาประเมินร่วมกันเราอาจจะได้เห็นความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างจริงจังเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งการปิดล็อคเมื่องที่ล่าสุดได้ยืดระยะเวลาออกไปถึงวันที่ 30 เมษายนอาจจะต้องยืดไปอีกจนถึงเดือนพฤษภาคม
รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) ที่จะรายงานกันในวันนี้จะเป็นเดือนแรกที่นักลงทุนจะเริ่มได้เห็นตัวเลขภาคแรงงานที่โดนผลกระทบจากโควิด-19 นักเศรษฐศาสตร์มองตัวเลขเอาไว้ที่ประมาณ 100,000 ตำแหน่งต้องตกงานเพราะพวกเขาอ้างอิงข้อมูลมาจากตัวเลขคาดการณ์การจ้างงานนอกภาคการเกษตรจาก ADP เมื่อวันพุธ อย่างที่เราได้บอกไปในบทความเมื่อวานี้ว่าข้อมูลของ NFP ในรอบนี้จะวัดถึงแค่วันที่ 12 มีนาคมเท่านั้นซึ่งในตอนนั้นรัฐแคลิฟอร์เนียยังไม่มีมาตรการสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ที่บ้านออกมาจนกระทั่งถึงวันที่ 20 มีนาคม อย่างที่ทราบกันดีว่าในช่วงสินเดือนมีนาคมเหตุการณ์ได้รุนแรงขึ้นจนถึงขั้นธุรกิจนับล้านของสหรัฐฯ ต้องถูกสั่งงดให้บริการและลูกจ้างถูกขอให้ออกจากงานกันเป็นว่าเล่น สรุปก็คือตัวเลขนอนฟาร์มอันย่อยยับที่แท้จริงเราจะได้เห็นกันในเดือนหน้า
คำถามตัวใหญ่ๆ สำหรับนักลงทุนในวันนี้คือ: แล้วเราควรจะเทรดนอนฟาร์มกันอย่างไรดีวันนี้?
ก่อนอื่นเราต้องไม่ลืมว่ารายงานอย่างอัตราการว่างงานและค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยที่จะออกมาพร้อมกับนอนฟาร์มก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน นอกเหนือจากตัวเลขคาดการณ์ของนอนฟาร์มแล้วนักวิเคราะห์มองว่าอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นจาก 3.5% เป็น 3.8% ส่วนตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยถูกมองว่าจะลดลงจาก 0.3% เหลือ 0.2% กราฟ USD/JPY จะไวต่อตัวเลขทั้ง 3 นี้มากและอาจจะเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเทรดทำกำไรได้
ถ้าข้อมูลตัวเลขนอนฟาร์มออกมาเท่ากับหรือน้อยกว่า 100,000 ตำแหน่งและอัตรากว่างงานลดลงเพียง 3.7% หรือน้อยกว่านั้น ดอลลาร์สหรัฐถือว่าได้รับข่าวดีแต่ก็อาจจะเป็นแรงขาขึ้นระยะสั้นๆ เพราะนักลงทุนจะหันไปสนใจว่าทำไมข้อมูลถึงออกมาดีได้ทั้งๆ ที่สภาพแวดล้อมดูแย่ไปหมด ดังนั้นสิ่งที่กราฟ USD/JPY จะแสดงออกมาอาจจะเป็นการวิ่งขึ้นไปก่อนที่จะร่วงลง
พารากราฟก่อนหน้านี้คือข่าวดี ทีนี้เราจะมาดูข่าวร้ายกันบ้างหากว่าตัวเลขนอนฟาร์มออกมามากกว่า 100,000 ตำแหน่งและอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น ไม่ต้องสืบเลยว่ากราฟ USD/JPY จะร่วงลงอย่างแน่นอนแต่จะร่วงลงแรงแค่ไหนขึ้นอยู่กับว่าตัวเลขที่ออกมานั้นมีคนตกงานเยอะแค่ไหน นอกจากสกุลเงินเยนที่ร่วงลงแล้วสกุลเงินอย่างสวิตฟรังก์ (CHF) ก็จะร่วงลงด้วย ดังนั้นอีกสองคู่สกุลเงินที่เราแนะนำให้จับตาดูคือ EUR/JPY และ CAD/JPY.
หนึ่งในสกุลเงินที่ทำผลงานได้แย่ที่สุดเมื่อคืนนี้คือสกุลเงินยูโรซึ่งแน่นอนมามีสาเหตุมาจากโควิด-19 ในทวีปยุโรป ประเทศสเปนมีรายงานตัวเลขจำนวนคนขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้น ฝรั่งเศสมีคนงานจำนวน 4 ล้านคนที่ถูกยกเลิกการจ้างงานชั่วคราว อ้างอิงข้อมูลจากสหภาพยุโรปพบว่าในแต่ละเดือนที่การปิดล็อคเมืองผ่านไปเท่ากับว่าตัวเลข GDP รายปีได้หายไปมากถึง 3% รายงานตัวเลขดัชนี PMI ของยูโรโซนในวันนี้คาดว่าจะออกมาลดลงเช่นเดียวกันกับตัวเลขยอดขายปลีกและดัชนี PMI ภาคการก่อสร้างของออสเตรเลีย แม้ว่าราคาน้ำมันดิบจะดีดตัวขึ้นอย่างรุนแรงแต่สกุลเงินแคนาดาดอลลาร์ทำเพียงปรับตัวลดลงเล็กน้อยเท่านั้น นักลงทุนหวังว่าซาอุดิอาระเบียจะตอบรับคำเรียกร้องจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อช่วยกันกอบกู้วิกฤตของราคาน้ำมันก่อนแต่เราก็ต้องมารอดูกันว่าคืนนี้เหตุการณ์จะเป็นเช่นไรต่อไป