อย่างไรก็ตามในสัปดาห์นี้เชื่อว่ากราฟ EUR/USD จะสามารถกลับขึ้นไปยังระดับราคาที่ 1.11 ได้เพราะยอดจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในสหรัฐฯ ที่เพิ่มสูงขึ้น กราฟ EUR/USD จะวิ่งไปในทิศทางไหนจะขึ้นอยู่กับยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อว่าสามารถขึ้นไปได้สูงสุดเท่าไหร่และจะสร้างผลเสียให้แก่เศรษฐกิจสหรัฐฯ มากน้อยเพียงใด เราไม่สามารถคาดการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได้แต่สามารถบอกได้ว่าเศรษฐกิจในยุโรปจะไม่มีทางฟื้นตัวได้ตราบใดที่สหรัฐฯ ยังไม่ดีขึ้น กราฟ EUR/USD อาจจะยังมีแนวโน้มที่วิ่งกลับลงไปทดสอบจุดต่ำสุดได้อยู่
สัปดาห์นี้ซึ่งถือเป็นเดือนใหม่ตามปฏิทินเศรษฐกิจแล้วถือเป็นสัปดาห์ที่สำคัญสำหรับสกุลเงินดอลลาร์และภาพรวมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เป็นอย่างมาก เมื่อคืนนี้สกุลเงินดอลลาร์สามารถปรับตัวขึ้นเหนือสกุลเงินหลักอื่นๆ ได้เพราะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า $2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐมีผลบังคับใช้แล้ว ถึงกระนั้นเราทุกคนทราบดีว่านโยบายนี้ทำได้เพียงถ่วงเวลาเท่านั้น สหรัฐฯ มีเพียงแต่ต้องเร่งหาผู้ที่ติดเชื้อให้เจอทั้งหมดโดยเร็ว หยุดยั้งกราฟขาขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อและหากว่าสามารถทำวัคซีนต่อต้านได้โดยเร็วจะยิ่งดีไปใหญ่ แม้ว่ายิ่งตรวจได้เร็วเท่าไหร่ยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นแต่ก็จะยิ่งทำให้สหรัฐฯ เข้าใกล้จุดที่พีคที่สุดของกราฟผู้ติดเชื้อได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น
สาเหตุที่สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่สำคัญของดอลลาร์สหรัฐเพราะถึงเวลาที่รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NFP) จะวนมาถึงอีกครั้ง นอกจากนี้ยังมีข้อมูลตัวเลขจาก ISM ที่จะประกาศออกมาด้วย ในสัปดาห์ที่แล้วรายงานตัวเลขยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานคือตัวสะท้อนว่าไวรัสโคโรนาสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากเพียงใด จากสาเหตุนี้ทำให้ข้อมูลตัวเลข NFP ในรอบนี้จะยังไม่สามารถดึงค่าความเสียหายที่แท้จริงออกมาได้มากนัก (นักวิเคราะห์จะสนใจเฉพาะหากตัวเลขลดลงต่ำกว่า 1 แสนตำแหน่ง)
สกุลเงินที่ทำผลงานได้แย่ที่สุดเมื่อวานคือแคนาดาดอลลาร์ที่ปรับตัวลดลงมากกว่า 1% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ แคนาดาดอลลาร์ยังคงเจ็บไม่หายจากการลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินของธนาคารกลางแคนาดาเมื่อวันศุกร์ที่แล้วซึ่งเฉพาะในเดือนนี้ BoC ลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้วถึง 3 ครั้งคิดเป็น 150 จุดเบสิส BoC เริ่มไม่เหลือทางเลือกมากนักแต่ก็ยังยืนกรานจะใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจแบบผ่อนคลายอยู่
อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แคนาดาดอลลาร์ อ่อนมูลค่าลงแน่นอนว่าย่อมเป็นผลกระทบมาจากสถานการณ์ในตลาดน้ำมันดิบที่กำลังยืนยืนตรงปากเหว $20 ว่าจะลงหรือไม่ลงไปมากกว่านี้ ตลอด 5 สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงมาแล้ว 60% ยิ่งตอนนี้ไม่ว่าประเทศมหาอำนาจจะพยายามหาทางฟื้นราคาน้ำมันดิบอย่างไรแต่เพราะปริมาณความต้องการที่ยังเพิ่มขึ้นจึงทำให้ราคาอาจจะปรับตัวขึ้นมาได้ไม่เกิน $25 (ในกรณีที่สถานการณ์ออกมาดี) ดังนั้นกราฟ UC จึงเลือกที่จะวิ่งกลับขึ้นไปและอาจขึ้นไปถึง 1.44 ข้อมูลตัวเลข GDP ของแคนาดาที่จะรายงานในวันนี้เป็นของเดือนมกราคมดังนั้นข้อมูลตัวเลขที่ออกมาจะยังเป็นตัวเลขที่ไม่แสดงถึงผลกระทบของโควิด-19
สกุลเงินออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ดอลลาร์อาจปรับตัวลดลงต่อได้หากข้อมูลตัวเลขดัชนี PMI ของจีนในวันนี้ออกมาลดลง