นอกจากนี้นักลงทุนยังค่อนข้างปลึ้มกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างจริงจังของกลุ่ม G7 ที่พวกเขาตกลงกันว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อเรียกความเชื่อมั่น ฟื้นอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ ป้องกันไม่ให้คนตกงานเพิ่มขึ้นหรือไม่ให้ผู้ประกอบการต้องล้มละลาย นโยบายที่กลุ่ม G7 คิดจะดำเนินการต่อไปประกอบไปด้วย….
- มอบทุนที่จำเป็นเพื่อต่อสู้กับ COVID-19
- ให้ความช่วยเหลือระดับพหุภาคีเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับรัฐบาลในประเทศกลุ่ม G7
- จัดสรรงบประมาณเพื่อช่วยเหลือให้เศรษฐกิจมีสภาพคล่องและสามารถขยายเศรษฐกิจได้ท่ามกลางการหดตัว
- ยังคงใช้นโยบายการเงินแบบขยายตัว
- จัดตั้งกองทุนสำรองเพื่อให้ประเทศสมาชิกสามารถเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินได้ตลอด
- เรียกร้องให้ประเทศผู้ผลิตน้ำมันหยุดทะเลาะกันก่อนและหันมาสร้างเสถียรภาพทางธุรกิจให้เกิดความยั่งยืน
- สนับสนุนความตั้งใจของ IMF และธนาคารโลกที่ต้องการให้เงินสนับสนุนแก่ประเทศที่อาจจะล้มเพราะ COVID-19
กราฟ USD/JPY ดีดตัวขึ้นจากระดับราคา 110.10 ขึ้นไปยังจุดสูงสุดที่ 111.00 ในขณะที่กราฟอย่าง USD/CAD ทะยานขึ้นจาก 1.4380 ขึ้นไปยัง 1.4520 ก่อนตลาดหลักทรัพย์สหรัฐเปิด สกุลเงินดอลลาร์ยังคงปรับตัวสูงขึ้นเพราะยังมีนักลงทุนที่มองว่าสกุลเงินดอลลาร์ยังคงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย เมื่อวิเคราะห์ทางเทคนิคแล้วพบว่าสกุลเงินยูโร ปอนด์ และออสเตรเลียดอลลาร์อาจจะได้เห็นก้นเหวของขาลงแล้วในขณะที่ข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจอย่างดัชนี PMI จากหลายๆ ภาคส่วนของเยอรมันลดลงจาก 50.7 เหรือ 37.2 ดัชนีของยูโรโซนลดลงจาก 51.6 เหลือ 31.4 ของสหราชอาณาจักรลดลงจาก 53 เหลือ 37.1 และดัชนี PMI จาก Markit ลดลงจาก 42 เหลือ 39.1 ทำให้เราต้องลดระดับแนวต้านของกราฟสกุลเงินเหล่านี้ลงมา
อย่างไรก็ตามนักลงทุนอย่าพึ่งชะล่าใจไปเพราะทำเนียบขาวเองก็ได้ออกมาเตือนว่าคน 1 คนที่ติดเชื้อสามารถแพร่กระจายให้คนได้มากถึง 1,000 คนในนิวยอร์ก มาตรวัดทางเศรษฐกิจอื่นๆ อย่างเช่นตัวเลขยอดที่อยู่อาศัยใหม่ ดัชนี PMI ภาคการบริการและภาคอื่นๆ อาจร่วงลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นอย่าพึ่งมองโลกในด้านบวกเกินไปและต้องไม่ตั้งตนอยู่ในความประมาท ข้อมูลจำนวนผู้ติดเชื้อและยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลกจะต้องเพิ่มขึ้นและสร้างความวิตกกังวลให้กับนักลงทุน
เชื่อว่ารายงานยอดจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในวันพฤหัสบดีนี้จะพบผู้ว่างงานมากกว่า 1.5 ล้านคน ถ้าตัวเลขนี้แตะ 2 ล้านคนได้เมื่อไหร่สกุลเงินจะร่วงลงจนเราได้เห็นจุดต่ำสุดใหม่แน่นอน การตัดสินใจที่จะกลับมาเปิดเมืองที่เป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจเร็วเกินไปของโดนัลด์ ทรัมป์อาจเพิ่มความเสี่ยงให้มียอดผู้ติดเชื้อมากขึ้นซึ่งเขาควรจะตัดสินใจในจังหวะที่ยอดผู้ติดเชื้อลดลงแล้วหรือพบวัคซีนที่สามารถต้านไวรัสโคโรนาได้สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นข่าวด้านดีหรือร้ายเหตุการณ์เหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นได้ ความเสี่ยงถือว่าอยู่ในระดับสูงซึ่งรัฐบาลจะต้องชั่งน้ำหนักและตัดสินใจเลือกให้ดีระหว่างเศรษฐกิจหรือชีวิตผู้คน ที่สำคัญต้องอำนวยความสะดวกให้กับการแพทย์และระบบสาธารณสุขไม่ใช่เพิ่มงานให้กับพวกเขา
ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้จะมีรายงานตัวเลขบัญชีการค้าของนิวซีแลนด์ อัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรและตัวเลขยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน ข้อมูลตัวเลขในเดือนกุมภาพันธ์ของนิวซีแลนด์จะยังไม่เห็นข้อมูลตัวเลขที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 เพราะข้อมูลดัชนี PMI ภาคการผลิตยังสูงอยู่ ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรอาจมีตัวเลขที่มากขึ้นจากดัชนีภาคการผลิตและบริการในขณะที่ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ อย่างลดลงอย่างน่าใจหาย
สรุปแล้วนักลงทุนควรจะจับตาดูข่าวนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลทั่วโลกและที่สำคัญในตอนนี้คือการลุ้นว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทรัมป์จะผ่านมติสภาหรือไม่ ข้อมูลตัวเลขบ่งชี้ทางเศรษฐกิจจากหลายๆ อุตสาหกรรมในสหรัฐฯ ละลดลง ธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรป (ECB) กำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการซื้อกองทุน ETF และประเทศเยอรมันกำลังถกเถียงกันเรื่องมาตรการปกป้องราคาพันธบัตรรัฐบาล อย่างไรก็ตามผลกระทบจากข่าวสำคัญเหล่านี้จะส่งผลในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น