ภาพรวมตลาดฟอเร็กซ์รายวัน: 11 กุมภาพันธ์ 2020
โดยคุณเคธี่ เหลียน กรรมการผู้จัดการวางกลยุทธ์การลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์ของบริษัทจัดการสินทรัพย์บีเค
นักลงทุนพากันเทขายยูโรตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ถือเป็นการปรับตัวลดลงมา 6 วันติดต่อกันแล้วสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนเป็นอย่างยิ่งจนตอนนี้กราฟ EUR/USD วิ่งลงไปยังจุดต่ำสุดของราคาในรอบ 4 เดือนได้เรียบร้อย ปัญหาของขาลงครั้งนี้อยู่ที่ภาพรวมของเศรษฐกิจ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วตัวเลขยอดขายปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมในเยอรมันออกมาแย่มากขนาดว่าตัวเลขนี้ยังไม่ได้นำไปพิจารณารวมกับความเสียหายจากโคโรนาไวรัส เมื่อตัวเลขบ่งชี้ทางเศรษฐกิจยุโรปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วออกมาเลวร้าย นักวิเคราะห์จึงประเมินว่าตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 4 ของเยอรมันและข้อมูลทางเศรษฐกิจอื่นๆ ของยูโรโซนมีโอกาสน้อยมากที่จะออกมาดีเกินคาดการณ์
กราฟ EURUSD มีโอกาสปรับตัวลดลงไปอยู่ต่ำกว่าระดับราคา 1.0879 ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาประธานธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรป (ECB) นางคริสตีน ลาการ์ดได้ออกมาแสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับการเติบโตของอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ เมื่อวานนี้ตัวแทนจากธนาคารกลางอิตาลีได้ออกมาเตือนประชาชนถึงความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่มีโอกาสเกิดขึ้นในปีนี้ นักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจในยูโรโซนจะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีนและสถานการณ์ทางการค้ากับสหราชอาณาจักรหลังจาก Brexit ผ่านไปแล้ว แม้จะยังไม่ถึงจุดวิกฤติแต่การที่ตัวเลขข้อมูลทางเศรษฐกิจของประเทศเยอรมันซึ่งเป็นพี่ใหญ่ของยูโรโซนยังพังไม่เป็นท่าสะท้อนให้เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ที่ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปจำเป็นต้องมีมาตรการมากระตุ้นเศรษฐกิจอย่างจริงจัง
คำถามที่ทุกคนอยากรู้สกุลเงินยูโรจะลงไปได้ไกลอีกแค่ไหน
เมื่อนำข้อมูลตัวเลขบ่งชี้ทางเศรษฐกิจระหว่างยุโรปและสหรัฐฯ มาเทียบกันจริงๆ ในช่วงนี้จะพบว่าข้อมูลทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีภาษีดีกว่ายูโรโซนอยู่มาก เศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโคโรนาน้อยกว่าเศรษฐกิจยูโรโซน ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรล่าสุด (NFP) แม้จะไม่ได้ออกมาดีมากแต่ก็ถือว่ายังอยู่ในระดับที่ดีในขณะที่พี่ใหญ่ของยูโรโซนอย่างเยอรมันยังมีตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมออกมาแย่มาก ถ้าคำแถลงการณ์ของนายเจอโรม พาวเวลล์ประธานเฟดในวันนี้ออกมาเป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเขายังแสดงท่าทีมั่นใจต่อการควบคุมไวรัสโคโรนาในสหรัฐฯ ได้ สกุลเงินดอลล่าร์จะยิ่งได้ใจและผลักยูโรให้ร่วงลงไปยัง 1.08
อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าตอนนี้พาวเวลล์ไม่น่าจะประมาทขนาดนั้นจากสถานการณ์ของโคโรนาไวรัสที่ตัวเลขยอดผู้เสียชีวิตแซงหน้า SARS ไปแล้ว อ้างอิงจากการแสดงความเห็นต่อสถานการณ์โคโรนาไวรัสล่าสุดเขาพูดว่าไม่อยากตัดสินสถานการณ์ของโคโรนาไวรัสกับเศรษฐกิจในตอนนี้ว่าดีหรือแย่เร็วเกินไป เป็นไปได้ที่เขาอาจจะพูดเรื่องมาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงิน หากเป็นเช่นนั้นกราฟ EURUSD ก็มีโอกาสปรับตัวกลับขึ้นมาได้อย่างน้อยกระสักระยะหนึ่ง
ข่าวฝั่งสกุลเงินดอลลาร์ในสัปดาห์นี้นอกจากจับตาดูคำแถลงการณ์จากประธานเฟดแล้วยังมีดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และตัวเลขยอดขายปลีก ส่วนหนึ่งที่สกุลเงินดอลลาร์อยู่ในสถานะอันแข็งแกร่งเช่นนี้ได้นอกจากตัวเลข NFP ที่ออกมาดีแล้วส่วนหนึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับตัวเลขผลประกอบการของบริษัทใหญ่ๆ ในสหรัฐฯ ที่ออกมาดีเกินคาดการณ์เช่นกันแม้ว่าเมื่อวันศุกร์ที่แล้วจะมีหุ้นบางตัวปรับตัวลดลงบ้างแต่นักลงทุนไม่ได้กังวลมากนักและมองว่าเป็นเพียงการปรับฐานตามปกติเท่านั้น นักลงทุนยังคงคาดหวังให้หุ้นเหล่านี้สามารถปรับตัวขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่ต่อไป หุ้นของแอมะซอน (NASDAQ:AMZN) ปรับตัวขึ้นได้ดีในขณะที่หุ้นแอปเปิ้ล (NASDAQ:AAPL) แม้จะยังไม่ร่วงหนักแต่ก็ถือว่าชะลอตัวเพราะความจำเป็นที่ต้องระงับการให้บริการชั่วคราวของสาขาที่อยู่ในประเทศจีนจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา
นักวิเคราะห์ท่านหนึ่งให้ความเห็นว่า “แม้อัตราเงินเฟ้อของหลายๆ พื้นที่ในโลกจะอยู่ในระดับต่ำ แต่ก็ต้องยอมรับว่าตอนนี้เศรษฐกิจโลกกำลังถูกคุกคามจากเชื้อไวรัสโคโรนา นักลงทุนให้ความสนใจว่ามาตรการของประเทศจีนจะสามารถจัดการเก็บเชื้อไวรัสและแก้ไขสถานการณ์ได้ดีแค่ไหน เป็นไปได้ไหมที่บุคคลผู้ติดเชื้อจะถูกรักษาและสามารถกลับไปทำงานตามปกติได้ภายในเดือนมีนาคม ถ้าทำได้จะเป็นการเรียกความมั่นใจให้นักลงทุนกลับมายังตลาดอีกครั้ง รัฐบาลจีนจะการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ กระบวนการผลิตจะกลับมา”
นักลงทุนยังให้ความสำคัญกับสถานการณ์ของสกุลเงินปอนด์ที่จะมีรายงานตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 4 ซึ่งจะออกมาพร้อมกับตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ที่ผ่านมากราฟ GBPUSD ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกันกับกราฟ EUR/USD แต่การปรับตัวลงของปอนด์ยังโชคดีที่มีแนวรับอย่างเส้นค่าเฉลี่ย 100SMA พยุงเอาไว้ อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์มองว่าตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 4 อาจจะออกมาลดลงแต่ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนธันวาคมจะสามารถออกมาดีขึ้นกว่าครั้งก่อน ตัวเลขที่น่าจับตาดูอีกรายการหนึ่งคือยอดการใช้จ่ายในช่วงสิ้นปีของประชาชนในสหราชอาณาจักรที่เป็นไปได้ว่าอาจจะออกมาลดลง
ในขณะที่สกุลเงินออสเตรเลียดอลลาร์ดีดตัวกลับขึ้นมาได้แต่แคนาดากับนิวซีแลนด์ดอลลาร์กลับปรับตัวลดลงเล็กน้อย ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ถือเป็นประเทศที่เศรษฐกิจได้รับผลกระทบส่วนใหญ่จากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของประเทศจีนซึ่งดัชนีความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจที่รายงานโดย NAB จะช่วยให้นักลงทุนเห็นภาพความกังวลนี้ชัดเจนขึ้น ธนาคารกลางนิวซีแลนด์จะมีการประชุมเกี่ยวกับการปรับอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ซึ่งเป็นไปได้ว่าธนาคารกลางฯ อาจจะออกมาเตือนถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจแม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงสิ้นปีของนิวซีแลนด์จะดีขึ้นก็ตาม กราฟ USDCAD ปรับตัวสูงขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดในรอบ 4 เดือนได้ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงต่ำกว่า $50 ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี