กราฟเด่นประจำวันนี้: สกุลเงินดอลลาร์ขึ้นถึงจุดสูงสุดแล้ว

เผยแพร่ 08/01/2563 11:46
อัพเดท 09/07/2566 17:31
DX
-

ทุกคนทราบดีว่าสกุลเงินดอลล่าร์ถือเป็นสกุลเงินที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นสกุลเงินของโลกไปเลยก็ว่าได้ จึงไม่มีวันไหนที่สกุลเงินดอลลาร์จะไม่ได้รับความสนใจและทำให้สกุลเงินดอลลารืยังคงสามารถปรับตัวสูงขึ้นไปได้เรื่อยๆ ขนาดว่าในช่วงปีที่แล้วที่เฟดมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคมและอีก 2 ครั้งถัดมาซึ่งเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบสิบปี ตัวเลขที่ลดลงมานั้นยังถือว่าดีกว่าหลายๆ ประเทศที่เป็นเจ้าของสกุลเงินหลักในโลกเสียอีก

นอกจากนี้การซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ยังถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่นักลงทุนชอบใช้เมื่อพวกเขาต้องการหาหลุมหลบภัยในยามที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีปัญหาซึ่งการดำเนินการนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้สกุลเงินดอลลาร์ กราฟเปรียบเทียบดัชนี S&P 500 กับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ รายวัน

แม้ว่าเรื่องที่กล่าวมาทั้งหมดจะเป็นความจริงแต่เราก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมสกุลเงินดอลลาร์ยังสามารถปรับตัวขึ้นสูงได้ไม่ว่าโลกจะอยู่ในสถานการณ์ปกติแล้วไม่ปกติ?

สถานการณ์ที่สกุลเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสูงเช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในปี 2016 ตอนนั้นไม่ว่าจะเป็นหุ้นหรือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ต่างก็พากันปรับตัวสูงขึ้น นักลงทุนกว้านซื้อทุกอย่าง แน่นอนว่าสกุลเงินดอลลาร์ย่อมต้องปรับตัวสูงขึ้นด้วยจนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต้องออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนมกราคมปี 2017 กับ Wall Street Journal ว่า “การที่สกุลเงินดอลลาร์ขึ้นสูงมากเกินไปกำลังทำร้ายประเทศของเรา” และมีการเน้นย้ำอีกครั้งจากรัฐมนตรีกระทรวงการคลังนายสตีเว่น มนูชิน

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในปีที่แล้วที่สหรัฐฯ ทำสงครามการค้ากับจีนนั้นแตกต่างออกไป ครั้งนี้แม้ว่าหุ้นในตลาดจะมีขึ้นบ้างลงบ้างแต่พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ กลับไม่วิ่งตามเลย ในสถานการณ์ที่เฟดจำเป็นต้องลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ นักลงทุนกลับเลือกที่จะไม่สนใจพันธบัตรรัฐบาล

แล้วทิศทางของสกุลเงินดอลลาร์จะเป็นเช่นไร? บางทีเราอาจจะต้องใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเข้ามาช่วยหาคำตอบกราฟดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ รายวัน

สกุลเงินดอลลาร์มีแนวโน้มขาขึ้นที่ดีนับตั้งแต่จุดต่ำสุดของราคา 88.25 เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ปี 2018 ขึ้นไปยังจุดสูงสุดของดัชนีที่ 99.67 เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมคิดเป็นการปรับตัวขึ้นไปทั้งสิ้น 13% หลังจากที่กราฟดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงมา สกุลเงินดอลลาร์ยังสามารถขึ้นมาได้ 850 pips หรือคิดเป็น 9.64% ในขณะที่กำลังเขียนบทความนี้

การร่วงลงของกราฟดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 29% ซึ่งเมื่อราคาได้ลงมาถึงแนวรับที่บริเวณเหนือราคา 97.00 คิดว่าตรงนี้ราคาควรจะดีดกลับจากเทรนไลน์เป็นแนวโน้มขาขึ้นแล้วใช่ไหม?

ความจริงแล้วอาจจะยังไม่ใช่…

กลายเป็นว่าการลงมายังแนวรับที่เหนือ 97.00 อีกครั้งเป็นการสร้างงรูปแบบหัวไหล่ (Head & Shoulder) ได้สำเร็จ เส้นแนวรับเหนือ 97.00 นั้นกลับกลายเป็นเส้น neckline ถึงกระนั้นการเจาะเส้นแนวต้านนั้นเป็นเพียงการทะลุลงมา 0.75% เท่านั้น นักลงทุนที่ชอบความเสี่ยงไม่ถูกใจสิ่งนี้เพราะนักลงทุนแนวนี้ต้องการให้กราฟปรับตัวลงมาเกิน 1% ก่อนเพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นกับดักหลอกว่าเป็นขาลง อย่างไรก็ตามการที่จะทำให้เชื่อว่ากราฟจะปรับฐานได้จริงๆ ราคาต้องลงมามากถึง 33% ซึ่งตอนนี้ยังเหลืออยู่อีก 4% ถ้าราคาสามารถดีดกลับเป็นขาขึ้นจากบริเวณนี้ได้ แนวโน้มขาขึ้นก็ยังไม่หมดหวังเสียทีเดียว

ไม่เพียงแค่เฉพาะรูปแบบหัวไหล่เสร็จสมบูรณ์ฺ กราฟทะลุเส้นเทรนไลน์ขาขึ้นลงมาได้และกำลังวกกลับไปทดสอบเส้นแนวต้านที่เป็น neckline เท่านั้นแต่เส้นค่าเฉลี่ยก็ยังตัดกันเรียบร้อยแล้วด้วย นอกจากนี้รูปแบบธงลู่ขึ้น (Rising Flag) ที่ราคากำลังทำอยู่หากดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ สามารถเจาะลงมาได้จริงจะเป็นการยืนยันรูปแบบไปต่อของแนวโน้มขาลงกราฟดัชนีดอลลาร์รายสัปดาห์

เมื่อพิจารณาภาพรวมกว้างๆ ในกราฟดัชนีดอลลาร์รายสัปดาห์จะพบว่ากราฟที่วิ่งกับ RSI กำลังวิ่งในลักษณะที่ตรงกันข้ามกันหรือที่ในวงการชอบเรียกว่า “ไดเวอร์เจนต์ (Divergence)” ซึ่งในทีนี้เป็นไดเวอร์เจนต์สำหรับขาลงด้วยยิ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงโมเมนตัมของราคาที่อ่อนลง

กลยุทธ์ในการเทรด

นักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะรอจนกว่าราคาจะลงมาต่ำกว่าจุดต่ำสุดที่ราคา 95.97 และรอให้ราคาดีดกลับเพื่อรอสัญญาณยืนยัน

นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง ขอเพียงราคาสามารถทะลุจุดต่ำสุดของราคาในเดือนมิถุนายนลงมาได้และมีแท่งเทียนดีดกลับสักแท่งก็พอ ไม่จำเป็นต้องรอแท่งเทียนที่จะมายืนยันการกลับตัว

นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง อาจตัดสินใจวางคำสั่งขายทันทีที่กราฟจะสามารถเจาะรูปแบบธงลงมาได้โดยอาจจะเลือกรอหรือไม่รอการดีดกลับมาทดสอบแนวต้านของราคา

ตัวอย่างการเทรด

- จุดเข้า: 96.75

- Stop-Loss: 97.25 เหนือเส้น neckline

- ความเสี่ยง: 50 pips

- เป้าหมายในการทำกำไร: 95.25

- กำไรที่จะได้รับ: 150 pips

- อัตราผลตอบแทนเมื่อเทียบกับความเสี่ยง: 1:3

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย