🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

กราฟเด่นประจำวันนี้:ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงจากปัจจัยพื้นฐานที่เข้ามากดดัน

เผยแพร่ 02/01/2563 15:28
อัพเดท 09/07/2566 17:31
EUR/USD
-
USD/CNY
-
DX
-
CL
-

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วกราฟดัชนีดอลล่าร์สหรัฐฯสามารถวิ่งขึ้นไปถึงแนวต้านสำคัญได้แต่ตอนนี้กราฟกลับวิ่งลงมาทดสอบแนวรับที่จุดต่ำสุดของเดือนธันวาคม ความสำคัญของดัชนีตัวนี้เป็นที่ทราบกันดีว่าดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ถูกนำมาใช้เทียบมูลค่ากับสกุลเงินหลักหลายๆ ตัวในฐานะสกุลเงินหลักของโลก ความซับซ้อนทางการเมือง การทหารและเศรษฐกิจทั้งหลายในโลกสามารถบ่งชี้ได้จากดัชนีตัวนี้

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ทราบถึงข้อได้เปรียบในส่วนนี้ดี ไม่เพียงเขาใช้มันต่อรองในตลาดการค้าภายในประเทศเท่านั้นเขายังนำข้อได้เปรียบนี้ไปใช้กับสงครามการค้าที่ลุกลามไปทั่วโลกทั้งกับประเทศจีน รัสเซียและสหภาพยุโรปจนประเทศเหล่านั้นต้องหาวิธีที่จะต่อกรกับความแข็งแกร่งของสกุลเงินดอลลาร์ด้วยความพยายามลดมูลค่าของสกุลเงินดอลลาร์ลงจึงเป็นที่มาสาเหตุหนึ่งว่าทำไมยุโรปถึงต้องจับมือกันเป็นสหภาพยุโรปและสร้างสกุลเงินยูโรขึ้นมา

ประเทศจีนเองก็มีความพยายามให้เห็นอยู่เช่นกันด้วยการใช้สกุลเงินหยวนเข้าไปซื้อน้ำมันในตลาดซื้อขายน้ำมันล่วงหน้าเพื่อคานอำนาจการซื้อขายน้ำมันดิบด้วยสกุลเงินดอลลาร์ลง

ตอนนี้สกุลเงินดอลลาร์กำลังถูกโจมตีในหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ได้กล่าวไปก่อนหน้าและการขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ของนักลงทุนต่างชาติ นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่เฟดอาจจะประกาศนโยบายผ่อนปรนทางการเงินเพิ่มขึ้นอีก แล้วอนาคตข้างหน้าของสกุลเงินดอลลาร์จะเป็นอย่างไร? ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ จะยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องอยู่หรือไม่?

อาจจะฟังดูเป็นข่าวร้ายแต่ความจริงคำตอบก็คือ...ใช่ เรามาดูรูปประกอบด้านล่างของดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ รายวันกันกราฟดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ รายวัน


จากรูปจะเห็นได้ว่ากราฟดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ สามารถขึ้นไปสร้างรูปแบบ double-top (แม้จะไม่สมบูรณ์แต่อย่างน้อยก็เหมือนในทฤษฎี) ได้ที่ระดับราคา 96.36 ซึ่งเราวัดความสมบูรณ์ของการเกิดรูปแบบนี้จากการที่จุดต่ำสุดของราคาที่เป็นฐานของรูปแบบ double-top เกิดขึ้นสำเร็จแล้ว จากนั้นเมื่อราคาดีดกลับขึ้นมาเราจึงสามารถมองเห็นว่ากราฟเป็นรูปแบบหัวไหล่ (Head & Shoulder) ได้อย่างชัดเจน

ยิ่งความซับซ้อนของรูปแบบที่เกิดขึ้นมีมากเท่าไหร่ความเป็นไปได้ที่นักลงทุนหรือเทรดเดอร์จะตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในตลาดก็มีน้อยลงเท่านั้นซึ่งส่งผลให้แรงซื้อขายในตลาดที่เกิดขึ้นมีน้อยลงไปด้วย

อย่างไรก็ตามแนวโน้มขาลงได้ประกาศตัวอย่างชัดเจนต่อนักลงทุนเมื่อกราฟสามารถทะลุเส้นเทรนไลน์ขาขึ้นที่ลากมาตั้งแต่วันที่ 24 กันยายนตอนที่กราฟดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ วิ่งขึ้นมาจากจุดต่ำสุดของราคาที่ 88 จนสามารถขึ้นมาถึงเลข 100 ได้ในเดือนตุลาคมปี 2019 ลงมาได้สำเร็จ

ยิ่งถ้านำไปพิจารณาร่วมกันเส้นค่าเฉลี่ย DMA ด้วยแล้วจะพบว่าเส้นค่าเฉลี่ย 50 DMA ตอนนี้เข้าใกล้กับเส้นค่าเฉลี่ย 200 DMA แล้วทำให้เทรดเดอร์เริ่มชั่งใจแล้วว่าเส้น 50 DMA จะสามารถเจาะเส้นค่าเฉลี่ย 200 DMA ได้จริงๆ หรือกราฟจะดีดตัวกลับขึ้นไปก่อนแล้วกลับกลายเป็นแนวโน้มขาขึ้นยังสามารถรักษาเทรนของราคาเอาไว้ได้อยู่

หรือถ้าคิดแบบเข้าข้างแนวโน้มขาลงก็สามารถพิจารณาได้ว่าตอนนี้กราฟดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ก็ปรับตัวลงมาเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันแล้ว ถ้าตลาดขาลงยังคงคุมเกมได้อยู่แบบนี้และสามารถสร้างจุดปิดที่ต่ำกว่าจุดต่ำสุดของเดือนมิถุนายน ก็เพียงพอแล้วกับการยืนยันว่าเป็นสัญญาณแนวโน้มขาลงในตลาดแน่นอนและจะยิ่งเป็นการยืนยันความสำเร็จการการตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ย 50 และ 200 DMA และยืนยันรูปแบบหัวไหล่โดยมีเป้าหมายของราคาอยู่ที่ระดับราคาซึ่งเป็นตัวเลขจิตวิทยาที่ 95

กลยุทธ์ในการเทรด

นักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะรอให้ราคาสามารถปิดแท่งเทียนได้ต่ำกว่าระดับราคา 95.84 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของราคาเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนให้ได้ก่อน จากนั้นจะรอให้กราฟพักตัวเป็นรูปแบบของขาขึ้นและต้องมีหลักฐานแสดงให้เห็นถึงการเจาะแนวต้านสำเร็จจึงค่อยวางคำสั่งซื้อ

นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง จะรอให้กราฟพักตัวก่อนและหลังจากที่กราฟปิดแท่งได้ต่ำกว่าระดับราคา 96.59 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของราคาในวันที่ 12 ธันวาคมพวกเขาจะไม่รอสัญญาณยืนยันจากการเจาะแนวต้านแต่จะเข้าซื้อเลย

นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง วางคำสั่งซื้อเลยโดยวัดใจกับการดีดกลับของราคาหลังจากที่กราฟลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมอีกครั้ง พวกเขาเข้าใจถึงรูปแบบและอัตราการรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นนักลงทุนเหล่านี้อาจจะมีการเปิดคำสั่งขายตามนักลงทุนฝั่นขาลงปานกลางในกรณีที่กราฟไม่ดีดกลับขึ้นมาจริงๆ

ตัวอย่างการเทรด

จุดเข้า: 96.50
Stop-Loss: 96.40
ความเสี่ยง: 10 pips
เป้าหมายในการทำกำไร: 97.00
ผลตอบแทนที่จะได้รับ: 50 pips
อัตราความเสี่ยงกับผลตอบแทนที่จะัได้: 1:5

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย