ภาพรวมตลาดฟอร์เร็กซ์ในวันที่ 23 ธันวาคม 2019
โดย Kathy Lien กรรมการบริหารด้านกลยุทธ์ของ BK Asset Management
ก่อนอื่นดิฉันต้องขอกล่าวอวยพรสำหรับผู้อ่านทุกท่านมีความสุขในวันหยุดยาวที่จะมาถึงนี้ เป็นปีที่ดิฉันมีความยินดีที่ได้เขียนบทความให้ผู้อ่านทุกท่าน เรามีจะมีการประกาศข่าวดีในปีหน้านี้ ดังนั้นรออีเมลจากเราได้เลยค่ะ
ไม่น่าแปลกใจที่การซื้อขายเงียบในวันจันทร์ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของตลาดก่อนวันหยุดคริสต์มาส สำหรับใครที่ไม่ได้หยุดใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า สำหรับนักลงทุนในตลาดหุ้นแล้ว วันอังคารตลาดเปิดทำการครึ่งวันและปิดในวันพุธ แม้ว่าตลาดสหรัฐฯ จะเปิดอีกครั้งในวันพฤหัสบดี ตลาดหลายๆ แห่งในยุโรปและอาเซียนยังคงปิดทำการเนื่องในวัน Boxing Day การมีส่วนร่วมน้อยลงหมายถึงสภาพคล่องน้อยลงซึ่งโดยทั่วไปจะนำไปสู่ช่วงการซื้อขายที่เข้มงวดมากขึ้น แต่ก็สามารถให้ฉากหลังที่สมบูรณ์แบบสำหรับการฝ่าวงล้อมที่รุนแรง ดังเช่นกรณีในปี 2019 เมื่อ คู่สกุลเงิน USD/JPY ลดลง 4% ในเวลาไม่กี่นาทีในวันพฤหัสบดีที่ 3 ม.ค. ส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวครั้งนั้นมาตากการที่นักลงทุนมีความกังวลและ Apple Inc (NASDAQ:AAPL)ได้เตือนล่วงหน้าถึงผลกำไร
ในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาเราเห็นช่วงการซื้อขายค่อนข้างแคบสำหรับคู่สกุลเงินEUR/USDและ USD/JPY ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการฝ่าวงล้อมใกล้เข้ามา โดยที่จะไม่มีเหตุการณ์ที่จะสร้างผลกระทบต่อตลาดอย่างเช่น การยิงขีปณาวุธของเกาหลีเหนือในวันคริสต์มาส การที่สหรัฐฯ ออกมาแถลงว่ามีปัญหาด้านการลงนามการค้ากับจีน ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ Brexit ความเสี่ยงที่ทรัมป์จะถูกถอดถอนอย่างเป็นทางการ หรือเการเทขายเพราะความตื่นตระหนกใช่ช่วงต้นปี ข้อมูลจากทางสหรัฐฯ สร้างความผิดหวังและทำให้เกิความกังวลว่าเฟดอาจจะต้องลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปี 2020
มีข้อมูลด้านเศรษฐกิจออกมาน้อยมากในปฏิทินสัปดาห์นี้ แต่ข้อมูลที่ปล่อยออกมาวันจันทร์ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัว ข้อมูลของสหรัฐฯได้กลับมาแย่ลงในช่วงปลายปี ดังนั้นในขณะที่เศรษฐกิจหลักพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการถดถอยในปี 2020 การเติบโตของสหรัฐฯ นั้นอาจจะอ่อนตัวลงก่อนที่จะปรับตัวดีขึ้น รายงานเมื่อวันจันทร์สร้างความประหลาดใจถึงตัวเลขที่ลดลงของสินค้าคงทน ซึ่งไปตอกย้ำความอ่อนแอของมาตราการในการผลิตอื่นๆ แม้ว่าตัวเลขของยอดขายบ้านใหม่จะเพิ่มขึ้นในจุดเบสิส แต่ยอดขายบ้านใหม่ที่ในเดือนพ.ย. นั้นต่ำกว่าเดือน ต.ค. ทั้งหมดนี้หมายความว่า การเคลื่อนไหวที่ทำลายสถิติในตลาดหุ้นสหรัฐฯ นั้นไม่ยั่งยืน และด้วยข้อมูลที่อ่อนตัวลง ยังคงมีความเสี่ยงอย่างมากในปี 2020
เงินดอลลาร์แคนาดาก็ร่วงลงตามข้อมูล GDP ที่เบาบางลงเช่นกัน ตามรายงานล่าสุดเศรษฐกิจของแคนาดาหดตัว 0.1% ในเดือนต.ค. ในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา CAD มีความเข็งตัวขึ้นมาก แม้ว่าจะมีรายงานตัวเลขยอดค้าปลีก ตลาดแรงานและข้อมูลการเติบโตในปัจจุบันนั้นยังแสดงถึงตัวเลขที่อ่อนแอ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ น่าจะเป็นการยากสำหรับ loonie ที่จะเพิ่มการทำกำไรในสัปดาห์ที่จะมาถึงนี้ ธนาคารแห่งประเทศแคนาดาอาจจะพอใจกับนโยบายทางการเงินในปัจจุบันนี้ แต่ถ้าหากว่า การเติบโตของสหรัฐฯ นั้นชะลอตัวลงเพิ่มขึ้น และข้อมูลเศรษฐกิจของแคนาดาก็ยังคงอ่อนลงต่อเนื่อง เราอาจจะได้เห็นการผ่อนคลายทางการเงินที่จะเกิดขึ้นในปี 2020
ยังคงมีการเทขายค่าเงิน ปอนด์ ในวันจันทร์เนื่องจากค่าเงินยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากการเลือกตั้ง ผู้ร่างกฎหมายของสหราชอาณาจักรให้การสนับสนุนแผนการของนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ที่จะออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 31 ม.ค. ด้วยข้ำกำหนด Brexit นี้ ทางสหราชอาณาจักรจะมีเวลาถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2020 เพื่อเจรจาข้อตกลงทางการค้ากับอียู ซึ่งหากว่าไม่มีข้อตกลงทางการค้าเกิดขึ้น นายบอริสก็มีทางออกสำหรับเรื่องนั้นอยู่ ในระหว่างนี้ ข้อมูลยังคงมีความอ่อนแอและมีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงในปีที่จะมาถึง เว้นแต่ว่า Boris Johnson จะบรรลุข้อตกลงกับอียูให้เร็วขึ้น
ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ สามารถทำกำไรได้เนื่องจากการดีดตัวขึ้นของค่าเงินยูโรไม่มีรายงานเศรษฐกิจตกต่ำ แต่ราคานำเข้าของเยอรมันเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ในขณะที่ค่าเงินยูโรอาจจะมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่มีการเทขายอย่างหนักในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่สกุลเงิน AUD และ NZD กำลังทำกำไรได้มากเกินไป และอาจจะปิดตลาดในปีนี้ด้วยการทำกำไร