- รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2020 วันพฤหัสบดี ที่ 12 ธ.ค. หลังจากตลาดปิด
- รายได้ที่คาดหวัง: $5,740 ล้านเหรียญ
- กำไรต่อหุ้นที่คาดหวัง: $5.36 เหรียญ
นักลงทุนไม่สามารถเพิกเฉยต่อการรายงานผลประกอบการของบริษัท Broadcom Inc (NASDAQ:AVGO) ในไตรมาสที่ 4 ในวันพรุ่งนี้ ผู้ผลิตชิป บริษัท San Jose ที่ตั้งอยู่ที่แคลิฟอร์เนียได้ถือว่าเป็นตัวหลักสำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เนื่องจากฐานลูกค้าที่กว้างขวางและสายการผลิตสินค้าที่หลากหลาย
รายงานผลประกอบการของ Broadcom จะได้รับการพิจารณาอย่างใกล้ชิดเพื่อดูว่ามีการไต่ระดับขึ้นในหุ้นชิปมากน้อยแค่ไหน ดัชนีPhiladelphia Semiconductor ที่ได้รวมเอาผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของโลก เช่น Intel Corporation (NASDAQ:INTC), NVIDIA Corporation (NASDAQ:NVDA) และ Advanced Micro Devices Inc (NASDAQ:AMD) ได้ปรับระดับสูงขึ้น 48% ในปี 2019 สูงกว่าดัชนี S&P 500 ที่เพิ่มขึ้น 24% ในปีนี้
การฟื้นตัวเกิดขึ้นท่ามกลางการมองโลกในแง่ดีว่าการชะลอตัวของภาคธุรกิจในปีที่ผ่านมานั้น เป็นไปในระยะสั้น แม้ว่าจะมีสัญญาณที่หลากหลายจากผู้ผลิตรายใหญ่บางรายก็ตาม
Nvidia ผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์รายใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมเมื่อเดือนที่แล้วรายงานยอดขายรายไตรมาส ที่มากกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ แต่บริษัทยังมีการคาดการณ์ถึงการเติบโตที่อ่อนแอ โดยกล่าวว่าความฟื้นตัวของความต้องการชิบเพื่อกราฟฟิคเกมนั้นช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้
บริษัท Texas Instruments (NASDAQ:TXN) ได้กล่าวในเดือนต.ค. ว่า “ตลาดส่วนใหญ่ยังคงอ่อนแอเพิ่มเติม” ใน ไตรมาสที่ 3 และได้ให้การคาดการณ์สำหรับรายได้ในไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นค่าที่ต่ำที่สุดในตลาดหุ้น Wall Street
สถานการณ์อารมณ์ของนักลงทุนต่อตลาดขาขึ้น
คำเตือนหลายๆ อย่างต่างก็ไม่เป็นผลต่ออารมณ์ของนักลงทุนที่มีต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในไตรมาสที่ 3 มีแนวโน้มว่าจะเป็นจุดต่ำสุดของวัฏจักรขาลงของอุตสาหกรรม การเติบโตจะยังคงดำเนินต่อไป ในไตรมาสที่ 3 ปี 2020 รายได้ผลประกอบการที่คาดการณ์ของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์คือจะมีการขยายตัวเร็วกว่าบริษัทซอฟต์แวร์ต่างๆ
ด้วยเหตุผลเดียวกัน รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของ Broadcom และการประชุมทางโทรศัพท์จะได้รับการพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนโดยนักลงทุน ซึ่งมีความกระตือรือร้นที่จะทราบว่าจุดอ่อนในวงกว้างที่ผู้ผลิตชิปกำลังเผชิญอยู่นั้นไม่มีแล้ว
อีกเหตุผลหนึ่งที่รายได้ของ Broadcom จะได้รับการจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะบริษัทมียอดรายได้เกือบครึ่งหนึ่งจากประเทศจีน ดังนั้นการเติบโตของยอดขายจะให้เบาะแสว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนนั้นส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างไร บริษัท Huawei Technologies ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ขึ้นบัญชีดำซื้อชิป Broadcom ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในอุปกรณ์เครือข่ายของบริษัทจีน
Broadcom ยังเป็นซัพพลายเออร์ชิปรายใหญ่ให้กับ Apple Inc (NASDAQ:AAPL) ซึ่งทำให้แนวโน้มของตลาดเทคโนโลยีไร้สายนั้นสำคัญเกินกว่าจะไม่ใส่ใจได้
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Hock Tan ได้สร้าง บริษัท มูลค่า $100,000 ล้านเหรียญ ผ่านทางการเข้าซื้อกิจการซึ่งรวมถึงการซื้อส่วนหนึ่งของ Symantec Corp (NASDAQ: NLOK) ในราคา 10,700 ล้านเหรียญในเดือนส.ค.
“ เราเชื่อว่าความต้องการได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว แต่จะยังคงอยู่ในระดับนี้ต่อไปเนื่องจากสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอนในปัจจุบัน” Tan กล่าวในการประกาศผลประกอบการในเดือนก.ค.
ประมาณครึ่งหนึ่งของชิป Broadcomที่ขายจะถูกนำไปใช้ในประเทศจีน หรือส่งผ่านโรงงานที่นั่น เพื่อที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขายไปทั่วโลก เมื่อปีที่แล้ว Huawei มียอดขายของ Broadcom ประมาณ $900 ล้านเหรียญ Tan ได้กล่าวไว้ หุ้น Broadcom ซึ่งเพิ่มขึ้น 24% ในปีนี้ปิดที่ระดับ $315.06 เหรียญเมื่อวานนี้
สรุป
หุ้นของบริษัทได้แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในช่วงที่ผ่านมาของผู้ผลิตชิป ในมุมมองของเราผลกระทบจากการแบนบริษัท Huawei และความเสี่ยงทางเศรษฐกิจมหภาค ต่างก็สะท้อนให้เห็นในราคาปัจจุบัน หากสถานการณ์ของการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนนั้นดีขึ้น หรือความเป็นไปได้ของข้อตกลงที่มีความเกี่ยวข้องกับ HUawei นั้นจะส่งผลดีต่อ Broadcom ในขณะเดียวกันนักลงทุนที่เฝ้าดูการประกาศผลประกอบการในวันพรุ่งนี้ก็ควรให้ความสำคัญกับมุมมองของบริษัทในปี 2020 ในเรื่องการใช้จ่ายด้าน คลาวด์และการใช้สมาร์ทโฟนในอนาคต