📊 ดูวิธีการที่นักลงทุนชั้นนำสร้างพอร์ตของพวกเขาค้นหาไอเดียการเทรด

หุ้น 3 ตัวที่น่าจับตามองสัปดาห์นี้ : Costco, Broadcom, Adobe Systems

เผยแพร่ 09/12/2562 12:03
อัพเดท 09/07/2566 17:31
IXIC
-

ด้วยข้อมูลด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ แสดงถึงความแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ตลาดหุ้นเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง ดัชดีหลักทั้ง 3 ตัวของสหรัฐฯ ได้ไต่ระดับขึ้น 1 % ในช่วงเซสชั่นหลังจากที่มีรายงานประจำเดือนของการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่แสดงให้เห็นถึงตำแหน่งงานที่มากถึง 266,000 ในเดือนพ.ย. มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 187,000 ตำแหน่ง

นักวิเคราะห์ยังไม่รายงานความผันผวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ จะสื่อสารกับตลาดเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในวันพุธนี้ แม้ว่าการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย ของเฟดน่าจะเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดที่นักลงทุนจะให้ความสนใจในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ แต่ก็ยังมีการประกาศผลประกอบการที่สำคัญที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว ซึ่ง 3 บริษัทที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้น่าจะสร้างความประหลาดใจให้กับตลาดเช่นกัน เมื่อถึงเวลารายงานตัวเลขของผลประกอบการ

1. Costco Wholesale

ภาคการค้าปลีกจะถูกกลับมาพิจารณาอีกครั้งเมื่อ Costco Wholesale (NASDAQ:COST) รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2020 ในวันพฤหัสบดีที่ 12 ธ.ค.หลังจากตลาดปิด นักวิเคราะห์คาดการณ์กำไรต่อหุ้นที่ $1.71 เหรียญ และยอดขายทั้งหมดที่ $37,360 ล้านเหรียญ โดยที่ไม่เหมือนกับร้านค้าปลีกอื่นๆ Costco มีแนวโน้มจะมีรายงานตัวเลขที่แข็งแกร่ง บริษัทได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในปีนี้ แม้ว่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของการเติบโตทั่วโลกและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับกำแพงภาษียอดขายออนไลน์เพิ่มขึ้นเป็น 5% จากยอดขายที่เปรียบเทียบได้ในไตรมาสที่สิ้นสุดวันที่ 1 ก.ย.ซึ่งยอดขายออนไลน์โดยไม่เปรียบเทียบขึ้นเป็น 22% ในช่วงเวลาเดียวกัน หุ้นปรับตัวขึ้น 0.63% ในวันศุกร์ ตอนนี้หุ้นเพิ่มขึ้น 44% จนถึงปีนี้ เทียบกับ 6% สำหรับคู่แข่งที่ใกล้เคียงที่สุดคือ BJs Wholesale Club Holdings (NYSE:BJ)

2. Broadcom

ผู้ผลิตชิปรายสุดท้ายที่ปล่อยรายงานผลประกอบการออกมาในฤดูกาลนี้คือ Broadcom (NASDAQ:AVGO) ซึ่งจะรายงานตัวเลขในไตรมาสที่ 4 ปี 2019 ในวันพฤหัสบดีที่ 12 ธ.ค. นี้ หลังจากตลาดปิดเช่นกัน กำไรต่อหุ้นที่คาดการณ์อยู่ที่ $5.36 เหรียญ จากยอดขายทั้งหมดที่ $5,740 ล้านเหรียญ

การชะลอตัวล่าสุดในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กำลังแสดงสัญญาณของจุดต่ำสุดโดยดัชนีเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้นเกือบ 50% ในปีนี้ จากมาตรการดังกล่าวหุ้นของ Broadcom นั้นมีประสิทธิภาพต่ำกว่าระดับที่เพิ่มขึ้นเพียงครึ่งเดียวของดัชนี สต็อกปิดที่ $ 316.05 เหรียญ ในวันศุกร์ เพิ่มขึ้น 1.56%

ในรายงานผลประกอบการล่าสุด นักลงทุนต่างก็กระตือรือร้นอยากจะทราบถึงกลยุทธ์ล่าสุดของบริษัท ซึ่งนำโดยประธานกรรมการผู้บริหาร Hock Tan ที่จะเติบโตผ่านการเข้าซื้อกิจการ รวมถึงการซื้อสินทรัพย์ซอล์ฟแวร์

เมื่อปีที่ผ่านมาBroadcomได้ซื้อกิจการจาก Symantec's (NASDAQ:NLOK) แผนกรักษาความปลอดภัยขององค์กร ที่ผลิตซอฟต์แวร์เพื่อป้องกันเหล่าแฮกเกอร์ ในราคา $10,000 ล้านเหรียญ ซึ่งถือว่าเป็นการซื้อซอฟต์แวร์ครั้งที่สองที่ใหญ่ที่สุดของ Broadcom

3. Adobe Systems

อีกหนึ่งหุ้นที่อาจทำให้นักลงทุนประหลาดใจในสัปดาห์นี้คือ Adobe Systems (NASDAQ:ADBE) ผู้ผลิต Photoshop ยังออกงบการเงินในปี 2019 ซึ่งเป็นผลประกอบการไตรมาสสี่ ในวันพฤหัสบดีหลังจากตลาดปิด ตลาดหุ้น Wall Street คาดว่าจะมีกำไรต่อหุ้น $2.26 เหรียญและเกือบ 3,000 ล้านเหรียญ

ในเดือนกันยายน Adobe จัดทำประมาณการรายรับสำหรับไตรมาสที่สี่ ซึ่งต่ำกว่าประมาณการของตลาดหุ้น Wall Street ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณการเติบโตของยอดขายที่ชะลอตัวลงสำหรับผลิตภัณฑ์การตลาดรุ่นใหม่ ประธานกรรมการบริหารนาย Shantanu Narayen ทำการตลาดและซื้อผลิตภัณฑ์อีคอมเมิร์ซหลายครั้งในช่วงสองปีที่ผ่านมาเพื่อเพิ่มรายได้ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 20% ในแต่ละไตรมาสตั้งแต่ปี 2015

ปีที่แล้ว Adobe ซื้อ Magento Commerce ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและผู้สร้างซอฟต์แวร์การตลาดอัตโนมัติ Marketo Adobe ซึ่งแข่งขันกับ Salesforce.com (NYSE:CRM) ทั้งในเรื่องของการตลาดและเทคโนโลยีอีคอมเมิร์ซ กำลังพยายามที่จะเติบโตโดยการขยายธุรกิจของตัวเอง ในขณะที่เสริมความแข็งแกร่งให้กับจุดแข็งของตัวเองคือธุรกิจซอฟต์แวร์ด้านการสร้างสรรค์

การซื้อขายหุ้น Adobe นั้นคึกคักในปีนี้ พุ่งขึ้นประมาณ 35% สต็อกปิดที่ $ 306.23 ในวันศุกร์หลังจากเพิ่มขึ้นมากกว่า 1%

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย