สำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาการเติบโตอย่างรวดเร็ว หุ้นของผู้ให้บริการแพลตฟอร์มวิดีโออย่างบริษัท Roku (NASDAQ:ROKU) ถือเป็นข้อพิสูจน์ที่ดี
บริษัท Roku ซึ่งเปิดตัวในปี 2017 ได้เสนอขายหุ้นที่ราคา $14 เหรียญต่อหุ้น เป็นบริษัทขายอุปกรณ์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้สตรีมวิดีโอบนทีวีของผู้ใช้เอง
นอกจากนี้ยังขายโฆษณาในช่องของตัวเองชื่อ Roku Channel และอนุญาตให้เครือข่ายโทรทัศน์ขายสปอตโฆษณาที่กำหนดเป้าหมายไปยังผู้ชมที่เฉพาะเจาะจงได้ ทำให้ราคาหุ้นได้ทะยานขึ้นเกือบจะ 900% นับตั้งแต่นั้นมา ปิดเซสชั่นของเมื่อวานที่ $139.57 เหรียญ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Roku ได้พิสูจน์ให้เห็นในการเติบโตอย่างมากในฐานะแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่โหลดไว้แล้วในทีวีบางยี่ห้อ
จากข้อมูลของ Bloomberg พบว่า 10 ใน 20 ทีวีขายดีที่สุดของ Amazon (NASDAQ:AMZN) เป็นทีวีที่เชื่อมต่อกับ Roku
เพื่อเพิ่มฐานรายได้ Roku ยังขายโฆษณาสินค้าสตรีมมิ่งฟรี ที่เรียกว่า THe Roku Channel ซึ่งมีหลากหลายรายการทีวี ทั้ง ทีวีโชว์และรายการบันเทิงอื่นๆ ยอดขายของบริษัทที่ได้มาจากการโฆษณาบนสตรีมมิ่งแพลตฟอร์ม คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 48% เป็น 1.100 ล้านเหรียญในปีนี้
ในรายงานผลประกอบการ ไตรมาสที่ 3 ที่กำหนดให้ปล่อยในวันนี้ Roku คาดว่าตัวเลขการเติบโตของรายได้น่าจะอยู่ที่ 50% คิดเป็น $256 ล้านเหรียญ ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ราคาจะลดลงที่ $0.28 เหรียญต่อหุ้น
ตามการประมาณการณ์ของบลูมเบิร์ก ตลาดหุ้นวอลสตรีทกำลังหวังให้มีผู้ใช้ใหม่เพิ่มเข้ามาในระบบถึง 2 ล้านคนในไตรมาสนี้ ซึ่งจะทำให้มีผลกำไรเพิ่มขึ้น 36% มากกว่าปีที่ผ่านมา
Roku อยู่ในตำแหน่งที่จะเพิ่มฐานผู้ใช้เป็นสามเท่าในอีกสามปีข้างหน้าโดยขยายไปสู่ตลาดโลกเนื่องจากได้รับประโยชน์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับอุปกรณ์เชื่อมต่อทีวีและการโฆษณา, นักวิเคราะห์ของ Macquarie ได้หมายเหตุไว้ในบันทึกของลูกค้าเมื่อเดือนที่ผ่านมา. ตามที่คาดการณ์ไว้ตัวเลขผู้ใช้ Roku จะเพิ่มขึ้นถึง 72 ล้านคนในปี 2020 เพิ่มขึ้นจาก 30.5 ล้านคนที่เป็นผู้ใช้เดิม ตามที่รายงานไว้ในไตรมาสที่ 2
“เรารู้เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับแผนการเปิดตัวต่างประเทศหรือค่าใช้จ่ายที่เกินปีนี้ ซึ่งเราคิดว่าจะเพิ่มขึ้นตามความต้องการด้านการตลาดที่เกิดขึ้น” นาย Tim Nollen นักวิเคราะห์ของ Macquarie ได้กล่าวไว้ในหมายเหตุ “เส้นทางการเติบโตของ Roku ในระดับสากลอาจเป็นภาพสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของ Netflix's (NASDAQ:NFLX) เช่นกันที่มีผู้ใช้งานมากถึงสามเท่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา”
ปัญหาคู่แข่งทางการค้า
ด้วยการคาดการณ์ที่แข็งแกร่งของ Roku ทำให้นักวิเคราะห์บางคนต้องออกมาเตือนผู้ซื้อหุ้นในระดับราคาที่สูง ณ ตอนนี้ว่า ให้ระวังปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาในตลาดเทคโนโลยีนั้นก็คือ คู่แข่งรายใหญ่กว่าที่เข้ามาในตลาดพร้อมกับสินค้าของตัวเองในเดือนกันยายน บริษัทเฟสบุ๊ค (NASDAQ:FB) ได้เปิดตัววิดีโอแชทแบบ Portal ที่สามารถเชื่อมต่อกับทีวีและเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งของ Amazon.com's (NASDAQ:AMZN) Portal TV สามารถเชื่อมต่อกับชุดทีวีด้วยสาย HDMI มาตรฐานและมีกล้องและไมโครโฟนหลายตัวเพื่อเปิดใช้งานการสนทนาทางวิดีโอผ่านบริการ Messenger และ WhatsApp ของเฟสบุ๊ค บริษัท Comcast Corp (NASDAQ:CMCSA) เพิ่งนำเสนออุปกรณ์ที่คล้ายกันสำหรับลูกค้าที่ใช้อินเทอร์เน็ตเท่านั้นปัญหาเรื่องคู่แข่งทางการค้าได้ทำให้เกิดความไม่แน่นอนให้กับ Roku หลังจากที่หุ้นตกลงมามากกว่า 40% นับตั้งแต่ที่ทำสถิติสูงสุดในต้นเดือนกันยายน หุ้นของ Roku กลับมาไต่ระดับขึ้นอีกครั้ง แม้จะลดลง 6.6% ในช่วงการซื้อขายสี่ครั้งล่าสุดหุ้นของ บริษัท ยังคงเพิ่มขึ้นมากกว่า 350% ในปี 2019 และมีประสิทธิภาพเหนือกว่าหุ้นเทคโนโลยีอื่นเกือบทุกตัว
สรุป
สามารถทำกำไรได้ในรายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 การเติบโตของบริษัทยังคงเติบโตได้ดีในตลาดวิดีโอสตรีมมิ่ง รายงานที่ผ่านมา 3 ครั้งได้พิสูจน์แล้วว่าหุ้นสามารถทำกำไรได้ 20% ในทุกๆ 3 วันตั้งแต่มีการรายงาน อย่างที่กล่าวไป ว่า หุ้นของ Roku อาจจะถูกแรงกดดันจากคู่แข็ง แต่ขอแนะนำว่าการซื้อขายในปัจจุบันนั้นราคาหุ้นได้พุ่งขึ้นสูงสุด และการเข้ามาซื้อในตอนนี้อาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก