รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

สถานการณ์ตลาดหุ้นและราคาทองคำ

เผยแพร่ 06/11/2562 12:25
อัพเดท 14/08/2566 17:57

ข่าวจาก CNBC ที่ตีพิมพ์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมามีประเด็นสำคัญที่กล่าวว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทรับบทหนักทั้งในเรื่องของสงครามทางการค้า ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นและความกังวลทางภูมิศาสตร์การเมือง รวมไปถึงสถานการณ์ Brexit อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นยังคงปรับตัวสูงขึ้นได้ในรอบประวัติการณ์

CNBC ยังได้รายงานเพิ่มเติมว่า การที่ดัชนีดาวน์โจนส์ ได้วิ่งตามดัชนี S&P 500 และ ดัชนี NASDAQ จนสามารถแตะจุดสูงสุดของราคา (All-Time High) เป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์ ส่งผลให้ตลาดขึ้นช่วงนี้เป็นกราฟที่ดูดีเกินกว่าความเป็นจริง และแน่นอนว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ถูกพูดถึงตลอดทั้งปีอย่างแน่นอน

แล้วตอนนี้ถ้าลองเอาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาเปรียบเทียบกับตลาดทองคำจะเห็นว่ามีตรรกะบางอย่างที่คล้ายคลึงกันอยู่

เมื่อตลาดหุ้นปรับตัวขึ้น โดยปกติแล้วตามคาดการณ์ราคาตลาดทองคำก็จะปรับตัวลดลง นี่คือกลไกของการรับประกันความเสี่ยง

แต่ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมาราคาการซื้อขายทองคำล่วงหน้าและการซื้อขายทองคำแท่งยังอยู่ที่ $1500 ต่อออนซ์ไม่ปรับตัวลดลงมามากนักซึ่งถือว่าอยู่ในตลาดขาขึ้น จริงๆ แล้วตลาดทองคำน่าจะต้องปรับตัวลดลงมาแต่การซื้อขายยังคงทำให้ทองคำยังอยู่ในภาวะตลาดขาขึ้น ทำให้นักลงทุนต่างเป็นกังวลในเรื่องของกลไกราคา

มีเหตุผลหลายประการที่ขัดแย้งกับการที่หุ้นที่ไต่ระดับปรับตัวสูงขึ้นสูงขึ้นเช่นเดียวกับการซื้อขายในตลาดทองคำ

เหมือนกับที่มีข้อสงสัยที่บ่งชี้ถึงสัญญาณการอ่อนตัวหลายประการที่ทำใการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นในครั้งนี้ดูแล้วไม่น่าเชื่อถือเท่าที่ควร และทำไมราคาทองคำถึงไม่ยอมขยับตัวลงมาที่ $1400 หรือต่ำกว่านั้นถ้าจะให้ข้อโต้แย้งเหล่านี้มีผลในการดำเนินการนั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นผู้ฟัง ถ้าเป็นผู้ซื้อดังนั้นสิ่งที่สำคัญสำหรับพวกเขาคือกำไรที่จะได้ในไตรมาสที่ 3 ที่กราฟมีลักษณะเป็นบวก โดยมีแรงหนุนจากทั้งการเติบโตของอุตสาหกรรมแรงงานในสหรัฐฯ เมื่อเดือนตุลาคมและข้อตกลงระหว่างรัฐบาลของทรัมป์และจีนที่ใกล้จะลงนามในสัญญาการค้าเร็วๆนี้ ในทำนองเดียวกันกับผู้สนับสนุนทองคำ ข้อโต้แย้งน่าจะเป็นปัญหาด้านสงครามทางการค้าที่ยังหาข้อสรุปยังไม่ได้ สถานการณ์ของ Brexit ที่ยังไม่ได้ทางออกที่เป็นที่ยอมรับได้ ทั้งยังเรื่องปัญหาความเสี่ยงของภูมิศาสตร์ทางการเมือง นักลงทุนเลยต้องการโลหะที่มีค่าเพื่อเป็นหลักประกันป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งความแข็งแกร่งในหุ้นอาจจะกลายเป็นหายนะ เมื่อองค์ประกอบที่ทำให้หุ้นแข็งแกร่งในวันนี้นั้นพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ

ทุกอย่างย่อมมีทางออก?

การวิเคราะห์ตลาดทองคำแยกเป็น 2 ประเด็นได้ดังนี้ หุ้นและทองคำสามารถปรับตามกลไกตลาดได้ในที่สุด หรือ จะถูกตลาดบังคับ

แต่ในขณะนี้ดูเหมือนว่ากราฟหุ้นและทองคำยังมีความผันผวนสูง

TD Securities มีคำอธิบายในหมายเหตุรายงานในวันจันทร์ว่า การซื้อขายของตลาดทั้งสองนั้นมีความเชื่อมโยงกัน

โบรกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารของแคนาดากล่าวว่าในขณะที่เฟดระบุว่าได้ทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2019 หลังจากการลดอัตราดอกเบี้ยในไตรมาสที่ 3 แล้ว การที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงอยู่นั้น ก็อาจจะเป็นการบังคับให้เฟดออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินในปีหน้า การที่เฟดไม่ได้มีความเคลื่อนไหวในการปรับลดเบี้ยอีก นั่นคือเหตุผลว่าทำไมนักลงทุนควรออกจากตลาดทองคำ

TD Securities กล่าวว่า:

“ตอนนี้ตลาดโลหะได้เป็นที่ชื่นชอบของนักลงทุนและจะกลายเป็นทางเลือกที่ดีในปี 2020 ด้วยการพึ่งพาข้อมูลและความกังวลเรื่องเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องทำให้เส้นทางของเฟดมีแนวโน้มที่จะผ่อนคลายนโยบายทางการเงินลง”

ในสถานการณ์ดังกล่าว โบรกเกอร์ได้แสดงความคิดเห็นว่า ทองคำยังคงเป็นหลักประกันความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพต่อการเติบโตที่ชะลอตัว ในขณะที่อาจจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกในครึ่งปีแรกของปี 2020 ทองคำจะช่วยให้การลงทุนมีความเสี่ยงน้อยลงในขณะที่โลกยังคงเป็นกังวลกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ

การพึ่งพาซื่งกันและกันของการซื้อขายหุ้นและทองคำ

นาย Fawad Razaqzada นักวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ forex.com ได้ระบุถึงการพึ่งพาซึ่งกันและกันระหว่างทองคำและหุ้นโดยกล่าวว่าจำเป็นต้องมีการป้องกันความเสี่ยงเมื่อเทียบกับ "ความอ่อนแอของข้อมูลและไม่ใช่ผลกำไรของบริษัทที่ยอดเยี่ยม"

เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ยังคงเห็นได้ว่าการมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับการค้าจะช่วยสนับสนุนวอลล์สตรีทและสินทรัพย์ความเสี่ยงโดยทั่วไปในอนาคต”

โจเซฟยังนักวิเคราะห์การเงินประจำฮ่องกงเปิดเผยในบทความเมื่อวันเสาร์ว่า:

“โมเมนตัมของทองคำในช่วงที่ตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นบ่งชี้ว่านักลงทุนไม่มั่นใจในประเด็นพื้นฐานรวมถึงความเสี่ยงทางการเมือง”

“ราคาทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้นแสดงให้เห็นว่าในขณะที่นักลงทุนกำลังเคลื่อนไปสู่การลงทุนที่มีความเสี่ยง นักวิเคราะห์เชื่อว่าการที่ทองคำยังเป็นตลาดขาขึ้นทำให้มีความได้เปรียบในปี 2019”

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย