โดย Kathy Lien กรรมการผู้จัดการด้านกลยุทธ์ฟอเร็กซ์จาก BK Asset Management
ภาพรวมตลาดฟอเร็กซ์ประจำวันที่ 16 กันยายน 2019
ในสัปดาห์นี้ธนาคารกลางที่มีกำหนดจะต้องแถลงนโยบายทางการเงินออกมามีจำนวนถึง 4 แห่งด้วยกัน หนึ่งในจำนวนนั้นคือ ธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นธนาคารกลางที่มีความสำคัญมากที่สุด เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเราได้พูดคุยกันค่อนข้างยาวว่าสิ่งที่เราคาดหวังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลาง (FOMC) นั้นมีอะไรบ้าง และเราจะมาพูดคุยเรื่องดังกล่าวอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันก่อนหน้าที่จะมีการประชุมของเฟดนั่นเอง แต่สำหรับตอนนี้เราจะมาพูดเกี่ยวกับประเด็นการฟื้นตัวขึ้นอย่างกว้างขวางของเงินดอลลาร์กันก่อน ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ ทั้งหมด ยกเว้นเยนญี่ปุ่น USD/JPY ลดลงอย่างต่อเนื่องไปพร้อมๆ กับผลตอบแทนพันธบัตรและการเทขายในตลาดหุ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนกำลังเริ่มมีความกังวลในช่วงก่อนการประชุมเฟดที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วยเหตุผลหลายอย่าง เหตุผลข้อแรกก็คือข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อย่างดัชนีภาคการผลิตเอ็มไพร์สเตทยังมีค่าไม่ดีนัก เหตุผลข้อที่สองคือตัวเลขข้อมูลทางเศรษฐกิจของจีนที่ประกาศออกมาเมื่อคืนนี้ยังต่ำกว่าที่คาดการณ์ และเหตุผลข้อสุดท้ายคือการโจมตีโรงงานผลิตน้ำมันในซาอุดิอาราเบียซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าสหรัฐฯ อาจยกระดับความรุนแรงโดยตัดสินใจเข้าโจมตีอิหร่าน
มีการคาดการณ์ว่าการโจมตีดังกล่าวเป็นฝีมือของอิหร่าน โดยหลังจากเกิดเหตุไม่นาน ประธานาธิบดีทรัมป์ก็ได้กล่าวว่ากองทัพสหรัฐฯ ได้ “เตรียมกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์ไว้พร้อมแล้ว” และรอฟังแค่เพียงว่าซาอุดิอาราเบียจะเชื่อว่า “ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังและมีเหตุผลใดที่ควรให้สหรัฐฯ เข้าดำเนินการช่วยเหลือในครั้งนี้” ด้านอิหร่านเองกลับไม่สนใจคำกล่าวโทษของสหรัฐฯ โดยให้เหตุผลว่าอิหร่าน “ยอมรับไม่ได้” และ “ไร้หลักฐาน” รวมทั้งยังขู่ว่าจะตอบโต้ฐานทัพของสหรัฐฯ ด้วย เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ราคาน้ำมัน ดีดตัวขึ้นไปมากกว่า 10% โดยไม่สนใจว่าทรัมป์จะปล่อยให้มีการใช้น้ำมันจากคลังปิโตรเลียมสำรองเชิงกลยุทธ์ของสหรัฐฯ เพิ่มอีกหรือไม่ก็ตาม อันที่จริงแล้วในตอนนี้แทบไม่มีปัจจัยใดที่จะส่งผลกระทบกับตลาดน้ำมันได้มากเท่าใดนัก แต่สิ่งที่น่ากลัวมากกว่านั้นคือเรื่องของสงครามซึ่งอาจทำให้ราคาน้ำมันและดอลลาร์แคนาดาปรับตัวสูงขึ้นอีก เราคาดว่า USD/CAD น่าจะลดลงไปอยู่ที่ระดับ 1.3150
ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์นิวซีแลนด์ กำลังถูกจับตามองเป็นอย่างมาก เนื่องจากตัวเลขอุตสาหกรรมการผลิต และยอดขายปลีก ยังคงสร้างแรงกดดันให้กับจีนที่อาจต้องเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้มากขึ้นอีก ดอลลาร์นิวซีแลนด์ได้รับผลกระทบหนักที่สุดโดยร่วงลงไปติดต่อกันเป็นวันที่สี่ ในขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจของจีนที่แย่ลงนั้นช่วยให้ดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวขึ้นได้บ้าง การกลับตัวขึ้นนี้อาจเกิดจากการที่ธนาคารกลางออสเตรเลียมีท่าทีที่ผ่อนปรนมากขึ้น ในคืนนี้จะมีการรายงานบันทึกการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางออสเตรเลียออกมาให้ทราบ ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียในภาพรวมก็จะมาจากท่าทีของธนาคารกลางแห่งนี้ด้วยเช่นกัน จากการประชุมครั้งที่ผ่านมาในเดือนกันยายน ธนาคารกลางออสเตรเลียทราบดีถึงความไม่แน่นอนของสถานการณ์โลก แต่ยังเชื่อว่าเศรษฐกิจจะยังเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ได้ เพราะยังสังเกตได้จากตัวเลขค่าจ้างที่ยังเติบโต รวมทั้งตลาดที่อยู่อาศัยที่ฟื้นตัวขึ้นน่าจะช่วยให้เกิดการใช้จ่ายที่มากขึ้นได้ ดังนั้นหากรายงานการประชุมออกมาในท่าทีที่เป็นเชิงบวก AUD/NZD ก็จะปรับตัวขึ้นแตะจุดสูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 5 เดือนได้ แต่หากมีสัญญาณใดที่ทำให้นักลงทุนเชื่อได้ว่าอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ ดอลลาร์ออสเตรเลียก็จะปรับตัวลงอย่างรวดเร็วและอาจลดลงไปมากกว่าดอลลาร์นิวซีแลนด์ได้เลยทีเดียว
ในส่วนของเงิน ยูโร และ สเตอร์ลิง เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาก็ร่วงลงอย่างหนัก ยูโรได้รับผลกระทบจากการที่นายเลน สมาชิกคนหนึ่งของธนาคารกลางยุโรปออกมาแสดงความคิดเห็นว่าอัตราเงินเฟ้อในขณะนี้ซึ่งกำลังจะเข้าสู่เป้าหมายที่วางไว้กลับเริ่มชะลอตัวลง และยังมีบางส่วนที่สวนทางออกจากเป้าหมาย ผลสำรวจจาก ZEW มีกำหนดที่จะประกาศออกมาให้ทราบในวันพรุ่งนี้ และในระหว่างที่นักลงทุนอาจกำลังดีใจที่จะมีการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ออกมาจากธนาคารกลางนั้น สภาพเศรษฐกิจของเยอรมนีก็ค่อนข้างแย่แล้ว ด้านเงินสเตอร์ลิงก็ยังได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ Brexit อยู่ นายจอห์นสันและนายยุงเคอร์เห็นพ้องที่จะเปิดการเจรจากันอย่างจริงจังอีกครั้ง แต่โอกาสที่จะชะลอเส้นตายกำหนดการออกจากอียูไปเป็นวันที่ 31 ตุลาคมนั้นยังคงเป็นปัญหา เนื่องจากนายเบ็ทเทล นายกรัฐมนตรีลักเซมเบิร์กกล่าวว่าเขาจะชะลอเส้นตายดังกล่าวให้ก็ต่อเมื่อเส้นตายนั้นสามารถทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้จริง ทั้งสหราชอาณาจักรและอียูจำเป็นต้องมีลักเซมเบิร์กเข้าร่วมด้วยเนื่องจากการตัดสินใจในเรื่องนี้จะต้องมีมติเป็นเอกฉ้นท์