เงิน ปอนด์ จะยังร่วงลงต่อหลังจากที่ได้ลงไปแตะจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2017 เป็นต้นมาอีกหรือไม่? การเจรจาในประเด็นที่อังกฤษต้องแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) นั้นเริ่มมีความ รุนแรงมากขึ้น นับจากที่ประชาชนชาวอังกฤษได้ละคะแนนโหวตเพื่อขอให้ประเทศออกจากสหภาพยุโรปตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา เงินสเตอร์ลิงก็แปรปรวนไปตามสถานการณ์ดังกล่าวมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากกราฟอาจช่วยทำให้เห็นข้อมูลและทิศทางในอนาคตที่มากขึ้นได้
ปัจจุบัน เงินปอนด์ปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดที่เคยทำได้ในช่วงเดือนมีนาคมลงมาประมาณ 6.65% คิดเป็นการปรับลดลงในปีนี้ทั้งสิ้น 2.4% นักลงทุนจึงเริ่มมีความสงสัยว่าในระดับที่เป็นอยู่จะถือว่าเป็นจุดต่ำสุดได้แล้วหรือยัง และราคาจะสามารถปรับตัวขึ้นไปแตะจุดสุงสุดที่เคยทำได้ในเดือนมีนาคมได้อีกครั้งหรือไม่
คำถามดังกล่าวปรากฎอยู่ในกราฟอย่างชัดเจนเมื่อราคาปรับตัวลงไปทดสอบจุดต่ำสุดระหว่างวันที่เกิดการเทขายออกมามากในวันที่ 3 มกราคมได้
สร้างกราฟด้วย TradingView
ราคาได้มีการปรับตัวไปทำจุดต่ำสุดใหม่อีกครั้ง ทำให้แนวโน้มขาลงยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องจากจุดสูงสุดของเดือนมีนาคมต่อไปอีก แต่ก็ยังทรงตัวอยู่เหนือระดับต่ำสุดของวันที่ 3 มกราคมได้ ซึ่งชี้ว่ายังมีปริมาณความต้องการซื้อเข้ามารองรับอยู่
เส้น RSI ได้ทำรูปแบบ H&S ต่อเนื่องได้สำเร็จ แสดงให้เห็นว่าจะเกิดแนวโน้มขาลงหลังจากที่มีการพักตัว รูปแบบดังกล่าวเป็นการแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงสัญญาระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายซึ่งก็หมายความว่ามีกำลังขายสูงกว่ากำลังซื้อค่อนข้างมาก และผู้ขายกำลังพยายามขายให้กับผู้ซื้อในราคาที่ถูกลงกว่าเดิม
เมื่อพิจารณากลไกทางเทคนิคแล้วจะพบว่า เมื่อมีการขายสถานะ long ออกโดยอัตโนมัติเมื่อราคาถึงจุด stop-loss การกลับลำของทิศทางราคาจากสูงไปหาต่ำย่อมทำให้การขาย short มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น สถานการณ์เช่นนี้ยังคงพบเจอได้บ่อยครั้งและจะเกิดขึ้นต่อไปจนกว่าจะมีปัจจัยเร่งหรือปัจจัยทางเทคนิคอื่นๆ เข้ามาหยุดไว้ได้
โดยสรุปคือหากมีสถานการณ์ที่เกี่ยวกับ Brexit โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลสำรวจใดๆ ออกมาอีก ก็จะทำให้ราคาแปรปรวนได้อีกอย่างแน่นอน สำหรับในขณะนี้นั้น ราคาที่ปรับตัวลงไปอยู่ต่ำกว่าระดับ trough ในวันที่ 3 มกราคม และยังลงไปต่ำกว่าระดับต่ำสุดของวันที่ 9 กรกฎาคมได้อีกด้วยนั้นเป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นว่ากำลังขายยังมีมากกว่ากำลังซื้ออย่างชัดเจน
กลยุทธ์การซื้อขาย
นักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยง ควรรอให้ราคาปรับตัวลงไปต่ำกว่าระดับ trough ของวันที่ 3 มกราคม จากนั้นรอให้เกิดการกลับตัวไปทดสอบแนวต้านก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าจะเกิดแนวโน้มขาลงระยะยาวได้จริง
นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานปลาง อาจต้องรอให้ราคาปิดอยู่ต่ำกว่าระดับ 1.2438 ซึ่งเป็นราคาต่ำสุดของวันที่ 3 มกราคม (ต่ำกว่าราคาต่ำสุดในวันที่ 8 กรกฎาคม 2 pips) และอาจรอให้เกิดการย่อตัวลงเล็กน้อยเพื่อช่วยลดความเสี่ยง แต่ไม่จำเป็นต้องรอจนมั่นใจว่าตลาดจะเป็นขาลง
นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง อาจพิจารณาเปิดสถานะ long ได้ทันทีเพื่อเข้าทำกำไรในช่วงที่ราคามีโอกาสตีกลับขึ้นจากแนวรับ โดยพยายามเข้าซื้อในช่วงที่ราคาเข้าใกล้แนวรับให้มากที่สุดเพื่อให้มีอัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทนรวมทั้งโอกาสในการปรับตัวขึ้นของราคามากที่สุด
ตัวอย่างการซื้อขาย – สถานะ Long
-
ราคาเข้า: 1.2450
-
Stop-Loss: 1.2430
-
ความเสี่ยง: 20 pips
-
เป้าหมาย: 1.2550 ซึ่งเป็นตัวเลขปัดเศษที่ต่ำกว่าราคาสูงสุดของวันที่ 12 กรกฎาคม
-
ผลตอบแทน: 100 pips
-
อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:5