แม้ว่าขณะนี้สงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนจะยังคงดำเนินต่อไป รวมทั้ง ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีการคาดการณ์สภาวะเศรษฐกิจที่ค่อนข้างยืดหยุ่นออกมาก็ตาม หลายฝ่ายก็ยังคง คาดการณ์ ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะยังไม่เปลี่ยนแปลงการใช้นโยบายทางการเงินภายหลังจากที่มีการประชุมเป็นเวลา 2 วันในวันที่ 20 มิถุนายน นี้ ซึ่งจะทำให้เงิน เยน แข็งค่าขึ้นได้อย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ เชื่อว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะต้องนำนโยบายผ่อนปรนทางด้านการเงินมาใช้ในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของค่าเงินตามข้อมูลปัจจัยพื้นฐานมักจะต้องใช้เวลานานพอสมควร ดังจะเห็นได้จากช่วงที่ทางการสหรัฐฯ ประกาศออกมาว่าเศรษฐกิจกำลังเกิดการชะลอตัว ดัชนีตลาดหุ้นจะปรับตัวสูงขึ้นทุกครั้งเนื่องจากนักลงทุนหันไปให้ความสนใจกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลาง
เราเริ่มเห็นรูปแบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นที่จีนเช่นกัน ในขณะที่นักลงทุนยังคงติดตามการพัฒนาของเศรษฐกิจในระยะยาว นักลงทุนก็มีการเข้าทำกำไรระยะสั้นในตลาดด้วย จากการวิเคราะห์ทางเทคนิคในช่วงนี้ เราน่าจะต้องตั้งเป้าหมายไว้อย่างนั้นเช่นกัน
หลังจากที่เงินดอลลาร์-เยนทำรูปแบบ double top เรียบร้อยในวันที่ 14 พฤษภาคม เงินคู่นี้ยังปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องโดยมีการปรับมูลค่าในรูปแบบธงขาขึ้นเป็นระยะๆ ซึ่งบ่งบอกถึงการปรับตัวลงที่ค่อนข้างเสถียรและต่อเนื่อง โดยมีการค่อยๆ เพิ่มการเทขายออกมาอย่างสม่ำเสมอ จนเมื่อหมดกำลังอุปสงค์แล้ว ผู้ขายก็จะลดราคาที่จะเสนอขายให้กับผู้ซื้อรายใหม่ในราคาที่ดีกว่าเดิม
หลังจากที่ได้ทำรูปแบบทั้งสองแล้ว การซือขายเงินดอลลาร์-เยนยังทำรูปแบบเดียวกันนี้อีกเป็นครั้งที่ 3 การที่ราคาทะลุกรอบแนวรับลงไปได้จะเป็นการส่งสัญญาณว่าจะเกิดราคาขาลงอีกครั้ง เนื่องจากเมื่อดูจากลำดับของการเกิดรูปแบบแล้วก็น่าจะเกิดซ้ำได้อีก และหากเริ่มเข้าใกล้แนวรับและค่าที่ต่ำสุดของปีก็น่าจะหมายถึงการที่ราคาจะดิ่งลงหนักกว่าเดิม
กลยุทธ์การซื้อขาย
นักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยง ควรรอให้ราคาแตะที่ระดับ $107.50 ก่อนที่จะพิจารณาเปิดสถานะ short
นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง ควรรอให้ทะลุกรอบแนวรับของธงก่อน แล้วรอให้มีการกลับตัวสักพักเพื่อดูแรงขายเพื่อให้ราคาลดต่ำลง โดยสังเกตจากแท่งเทียนสีแดงอย่างน้อย 1 แท่งที่ยาวกว่าแท่งเสียเขียวหรือแท่งเล็กๆ สีใดก็ได้
นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง อาจพิจารณาเปิดสถานะ short ได้ทันที เมือเห็นว่าน่าจะมีการทะลุกรอบแนวรับ โดยอาศัยเส้นแนวโน้มขาลงระยะกลางเป็นหลัก นอกจากนี้ อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทนจะดีขึ้น หากรอให้มีการปรับราคาไปหาราคาสูงสุดของวันจันทร์เสียก่อน
ตัวอย่างการซื้อขาย
-
ราคาเข้า: 108.50
-
Stop-Loss: 109.00
-
ความเสี่ยง: 50 pips
-
เป้าหมาย: 107.00
-
ผลตอบแทน: 150 pips
-
อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:3