🤑 ราคาไม่ได้ถูกมากไปกว่านี้แล้ว รับเลยส่วนลด Black Friday 60% ก่อนที่จะหมดเขต….รับส่วนลด

ไบเดนตั้งธงขายน้ำมันจากคลัง SPR เพิ่มเติม

เผยแพร่ 19/10/2565 07:46
© Reuters
LCO
-
CL
-
GPR
-

โดย  Ambar Warrick 

Investing.com – โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยืนยันแผนการที่จะปล่อยน้ำมัน 15 ล้านบาร์เรลออกจากคลังสำรองเชิงยุทธศาสตร์ (SPR) และกล่าวว่ารัฐบาลมีแผนจะเริ่มเติมน้ำมันสำรองเฉพาะเมื่อราคาน้ำมันดิบจะปรับลดลงอย่างมากจากระดับปัจจุบันเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ ประธานาธิบดีจึงพร้อมที่จะอนุมัติการขายเพิ่มเติมจากคลัง SPR ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าหากจำเป็น ทำเนียบขาวยืนยันในแถลงการณ์ว่าจะขายน้ำมัน 15 ล้านบาร์เรลจาก SPR ในสัปดาห์นี้ โดยจะมีการส่งมอบในเดือนธันวาคม

“ฝ่ายบริหารจะไม่ลังเลเลยที่จะใช้เครื่องมือนี้หรือเครื่องมืออื่น ๆ ที่มีอยู่ เพื่อหนุนอุปทานพลังงานทั่วโลก เพื่อสนับสนุนระดับน้ำมันดิบคงคลังในประเทศ และทำให้ราคาลดลงสำหรับชาวอเมริกัน” ทำเนียบขาวกล่าว

การเบิกจ่ายน้ำมันเมื่อวันอังคารเป็นระยะสุดท้ายในการเบิกของจำนวน 180 ล้านบาร์เรลจาก SPR ซึ่งเริ่มต้นเมื่อต้นปีนี้เพื่อช่วยลดราคาน้ำมันหลังจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย

แต่สิ่งนี้ทำให้ไบเดนเกิดข้อขัดแย้งกับซาอุดิอาระเบีย ประเทศที่เป็นผู้นำขององค์กรประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) ซึ่งทางกลุ่มพันธมิตรเพิ่งประกาศลดอุปทาน 2 ล้านบาร์เรลต่อวันเพื่อผลักดันราคาน้ำมันซึ่งซื้อขายใกล้ระดับต่ำสุดประจำปี

ไบเดนได้ขู่ว่าจะปล่อยน้ำมันเพิ่มเติมจาก SPR เพื่อตอบโต้ โดยการปล่อยวันนี้จะอยู่ที่ประมาณ 500,000 บาร์เรลต่อวัน เป็นการส่งมอบสำหรับเดือนธันวาคม

การเบิกถอนหลายครั้งในปีนี้ได้ทำให้น้ำมันดิบในคลัง SPR ลงไปที่ระดับต่ำสุดในรอบ 38 ปี แต่ยังคงเป็นคลังที่มีปริมาณสำรองน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ประมาณ 400 ล้านบาร์เรล

ทำเนียบขาวกล่าวว่ามีความตั้งใจที่จะเติมน้ำมันสำรองโดยการซื้อน้ำมันเมื่อราคาอยู่ที่หรือต่ำกว่าประมาณ 67 ถึง 72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเท่านั้น โดยที่ ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ประมาณ 91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันอังคาร ขณะที่ ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ซื้อขายที่ประมาณ 83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล รายงานของการเบิกถอนที่วางแผนไว้ที่ 15 ล้านบาร์เรลทำให้ราคาลดลง 1% ในสัปดาห์นี้

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังเรียกร้องให้บริษัทพลังงานส่งต่อต้นทุนน้ำมันดิบที่ต่ำลงให้แก่ลูกค้า “ทันที”

สหรัฐอเมริกา ราคาน้ำมันเบนซิน พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อต้นปีนี้ และเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นในประเทศ และได้ทำให้คะแนนความนิยมของประธานาธิบดีคนที่ 46 ลดลง แม้ว่าราคาจะถอยกลับจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในที่สุดก็ตาม

ราคาน้ำมันเบนซินเป็นจุดยึดหลักในการเลือกตั้งกลางเทอมที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน โดยพรรครีพับลิกันใช้ราคาที่พุ่งสูงขึ้นเป็นการวิพากษ์วิจารณ์พรรคเดโมแครตครั้งใหญ่

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย