InfoQuest - SET ปิดภาคเช้าวันนี้ที่ 1,521.00 จุด ลดลง 7.30 จุด (-0.48%) มูลค่าซื้อขายราว 31,166 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นภาคเช้าวันนี้ ดัชนีส่วนใหญ่แกว่งตัวในแดนลบ ทำจุดต่ำสุด 1,518.62 จุด และสูงสุด 1,531.49 จุด
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ เคลื่อนไหวแคบๆ ออกด้านข้าง โดยมีแรงเก็งกำไรหุ้นงบไตรมาส 2/66 ดี ได้แก่ กลุ่มการแพทย์ โดยเฉพาะ BH ที่มีแรงเก็งกำไรหนาแน่น มีกำไรดีกว่าคาดและมีการจ่ายเงินปันผล นอกจากนี้กลุ่มพลังงานก็ปรับตัวขึ้นมาตามราคาพลังงาน อาทิ PTTEP, PTT (BK:PTT), TOP จากราคาน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวสูงขึ้น
ส่วน Domestic Play อาทิ กลุ่มโรงไฟฟ้า , BJC ถูกขายออกมา เนื่องจากโรงไฟฟ้ารับราคาก๊าซธรรมชาติสูงขึ้น ส่วน BJC ผลประกอบการไตรมาส 2/66 ต่ำกว่าคาด ทำให้ภาพตลาดเช้านี้มีทั้งแรงซื้อและแรงขายผสมกันในหุ้นใหญ่
นอกจากนี้ ตลาดติดตามพัฒนาการเมืองที่พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ในวันนี้ได้ 10 เสียงจากพรรคชาติพัฒนาเข้ามาเติมเสียงในฝั่งพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้มีจำนวน 238 เสียงแล้ว และรอดูภายในสัปดาห์นี้จะมีจำนวนเสียงเข้ามาเติมให้กับพรรคร่วมรัฐบาลเข้ามาหรือไม่ ซึ่งพรรคเพื่อไทยระบุว่ารวมเสียงโหวตนายกรัฐมนตรีได้มากเกินกึ่งหนึ่ง หรือ 250 เสียง โดยหากทำได้คาดว่าดัชนี SET จะกลับมาที่เดิม ระดับ 1,540-1,550 จุดที่เป็นช่วงศาลรัฐธรรมนูญเลื่อนการพิจารณารับคำร้อกรณีรัฐสภามีมติตีความว่าการเสนอชื่อบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีให้รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบในรอบที่ 2 เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย นายณัฐพล คาดว่าตลาดจะแกว่งไซด์เวย์รอดูจำนวนเสียงที่เข้ามาเติมให้กับพรรคร่วมรัฐบาล โดยให้แนวรับที่ 1,522 จุด แนวต้านที่ 1,530 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,242.01 ล้านบาท ปิดที่ 165.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
BH มูลค่าการซื้อขาย 2,073.04 ล้านบาท ปิดที่ 241.00 บาท เพิ่มขึ้น 12.00 บาท
KBANK (BK:KBANK) มูลค่าการซื้อขาย 1,806.29 ล้านบาท ปิดที่ 126.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,580.29 ล้านบาท ปิดที่ 9.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,377.14 ล้านบาท ปิดที่ 35.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท