เมื่อวันอังคาร Benchmark คงอันดับความน่าเชื่อถือสําหรับหุ้น Snap Inc (NYSE:SNAP) เพื่อคาดการณ์รายงานผลประกอบการไตรมาสที่สองของบริษัทที่มีกําหนดในวันที่ 1 สิงหาคม หลังจากตลาดปิดทําการ บริษัทเน้นย้ําถึงความท้าทายหลายประการที่อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของ Snap ในการตอบสนองความคาดหวังที่เป็นเอกฉันท์ในระยะสั้น
นักวิเคราะห์จาก Benchmark ชี้ให้เห็นถึงข้อกังวลหลักสามประการ ประการแรก การเติบโตที่คาดหวังของรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้ (ARPU) ในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 ดูเหมือนจะไม่สมจริงหากไม่มีการนําผลิตภัณฑ์ช่องทางล่างมาใช้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการพูดคุยกับผู้ซื้อสื่อเมื่อเร็ว ๆ นี้เผยให้เห็นความคืบหน้าที่จํากัดในผลิตภัณฑ์โฆษณาการตอบสนองโดยตรง (DR) ของ Snap
ประการที่สอง อัตรากําไรขั้นต้นที่เป็นเอกฉันท์สําหรับครึ่งหลังของปี 2025 อาจมองโลกในแง่ดีมากเกินไป โดยไม่ได้คํานึงถึงความสามารถของ Snap ในการจัดการต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างเต็มที่เมื่อเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากบริษัทขนาดใหญ่ที่มีแมชชีนเลิร์นนิงขั้นสูงและความคิดริเริ่มด้านปัญญาประดิษฐ์
ประมาณการอัตรากําไรขั้นต้นของ Benchmark สําหรับปี 2024 ต่ํากว่าฉันทามติ 120 จุดพื้นฐานที่ 52.8% ซึ่งคํานึงถึงต้นทุนที่แนะนําสําหรับโครงสร้างพื้นฐานต่อผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่รายวันและต้นทุนของพันธมิตรด้านเนื้อหาและการพัฒนา
สุดท้ายนี้ ประมาณการรายได้ของบริษัทสําหรับปี 2024 ต่ํากว่าฉันทามติ 3% สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าฉันทามติในปัจจุบันอาจไม่พิจารณาอย่างเต็มที่ถึงการพึ่งพาค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานของ Snap เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 การประเมินของ Benchmark ระบุว่าการคาดการณ์ที่เป็นเอกฉันท์ไม่ได้คํานึงถึงค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานที่จําเป็นต่อการเติบโตของรายได้อย่างเพียงพอตั้งแต่ปี 2021
ในขณะที่ Snap Inc เตรียมที่จะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสที่สอง ข้อสังเกตเหล่านี้โดย Benchmark เน้นย้ําถึงอุปสรรคที่บริษัทต้องเผชิญในการบรรลุความคาดหวังที่เป็นเอกฉันท์ท่ามกลางภูมิทัศน์การโฆษณาดิจิทัลที่มีการแข่งขันสูงและกําลังพัฒนา นักลงทุนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจะจับตาดูรายงานผลประกอบการที่กําลังจะมาถึงอย่างใกล้ชิดเพื่อวัดผลการดําเนินงานและทิศทางเชิงกลยุทธ์ของ Snap
ในข่าวล่าสุดอื่น ๆ Snap Inc เป็นประเด็นของการพัฒนาที่สําคัญ บริษัทได้รายงานรายได้เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบเป็นรายปีในผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2024 ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับปรุงแพลตฟอร์มโฆษณาและความต้องการโซลูชันที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ผู้ใช้งานรายวันของ Snap ยังสูงถึง 422 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนหน้า
Snap ยังเปิดเผยแผนการที่จะระดมทุน 650 ล้านดอลลาร์ผ่านการเสนอขายหุ้นกู้อาวุโสแปลงสภาพในวงจํากัด ซึ่งจะครบกําหนดในปี 2030 โดยมีการเสนอขายหุ้นกู้เพิ่มเติม 100 ล้านดอลลาร์ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด รายได้ดังกล่าวมีไว้สําหรับความต้องการทั่วไปขององค์กร การเข้าซื้อกิจการที่อาจเกิดขึ้น และการซื้อหุ้นกู้อาวุโสแปลงสภาพที่มีอยู่ซึ่งจะครบกําหนดในปี 2025 และ 2026
นักวิเคราะห์ได้ตั้งข้อสังเกตถึงความคืบหน้าของบริษัท โดย Morgan Stanley ได้อัปเกรดหุ้น Snap จาก Underweight เป็น Equalweight และเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 16.00 ดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการประเมินผลการดําเนินงานทางธุรกิจการโฆษณาที่ดีขึ้นของ Snap BMO Capital Markets คงคะแนน Outperform สําหรับ Snap โดยเน้นย้ําถึงการมีส่วนร่วมของผู้ใช้และความยืดหยุ่นที่เพิ่มขึ้นในอเมริกาเหนือเนื่องจากการอัปเดตแพลตฟอร์ม iOS ที่ประสบความสําเร็จ
อย่างไรก็ตาม Snap ยังเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มการลดกําลังคนที่กว้างขึ้นในบริษัทเทคโนโลยีในอเมริกาเหนือ โดยประกาศการลดงานครั้งสําคัญ นอกจากนี้ บริษัทยังได้แสดงการสนับสนุนพระราชบัญญัติความปลอดภัยออนไลน์สําหรับเด็ก (KOSA) ซึ่งเป็นกฎหมายที่เสนอเพื่อกําหนด "หน้าที่ในการดูแล" ที่ชัดเจนสําหรับบริษัทโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับการใช้แพลตฟอร์มของตนโดยผู้เยาว์
ข้อมูลเชิงลึกของ InvestingPro
เมื่อ Snap Inc (NYSE:SNAP) เข้าใกล้รายงานผลประกอบการไตรมาสที่สอง นักลงทุนอาจพบว่าข้อมูลและเคล็ดลับล่าสุดของ InvestingPro มีข้อมูลเชิงลึกเป็นพิเศษ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของ Snap อยู่ที่ 22.0 พันล้านดอลลาร์ แม้ว่าบริษัทจะซื้อขายที่ราคา/บัญชีสูงที่ 10.32 ก็ตาม การประเมินมูลค่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของรายได้ที่สําคัญของบริษัท ซึ่งรายงานที่ 6.28% ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 1 ปี 2024 อย่างไรก็ตาม สิ่งสําคัญคือต้องทราบว่าอัตราส่วน P/E ของ Snap ติดลบ อยู่ที่ -16.68 ซึ่งส่งสัญญาณว่าบริษัทไม่ได้ทํากําไรในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา เคล็ดลับ InvestingPro เน้นย้ําว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าบริษัทจะทํากําไรได้ในปีนี้ ซึ่งอาจเป็นช่วงเวลาสําคัญสําหรับนักลงทุน
จากมุมมองของสภาพคล่อง สินทรัพย์สภาพคล่องของ Snap เกินภาระผูกพันระยะสั้น ซึ่งอาจสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนที่กังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของบริษัท เคล็ดลับ InvestingPro อีกประการหนึ่งบ่งชี้ว่า Snap ดําเนินงานด้วยหนี้สินในระดับปานกลาง ซึ่งเป็นปัจจัยสําคัญที่นักลงทุนต้องพิจารณาเมื่อประเมินโปรไฟล์ความเสี่ยงของบริษัท เมื่อคํานึงถึงความแตกต่างทางการเงินเหล่านี้ นักลงทุนที่กําลังมองหาการวิเคราะห์เชิงลึกและเคล็ดลับ InvestingPro เพิ่มเติมสามารถค้นหาได้ที่ https://www.investing.com/pro/SNAP โดยมีเคล็ดลับเพิ่มเติม 7 ข้อเพื่อช่วยในการตัดสินใจอย่างชาญฉลาด หากต้องการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ ให้ใช้รหัสคูปอง PRONEWS24 เพื่อรับส่วนลดสูงสุด 10% สําหรับการสมัครสมาชิก Pro รายปีและรายปีหรือรายปักษ์ Pro+
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน