InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานกว่า 200 จุด ขานรับคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังการเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ต่ำกว่าคาด
ณ เวลา 21.05 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 34,797.85 จุด บวก 212.50 จุด หรือ 0.61%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนมิ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ค.
ยอดค้าปลีกได้รับผลกระทบจากยอดขายของสถานีบริการน้ำมันซึ่งดิ่งลง 1.4% ในเดือนมิ.ย.
ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนมิ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ค.
ขณะเดียวกัน ดัชนีดาวโจนส์ได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ทั้งนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์จะช่วยเพิ่มกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้จากต่างประเทศ ส่วนการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐ จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น และช่วยลดต้นทุนการชำระหนี้ของบริษัทต่างๆ ทำให้บริษัทเหล่านี้สามารถเพิ่มการลงทุน และเพิ่มการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน
นอกจากนี้ ตลาดได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน
แบงก์ ออฟ อเมริกา และมอร์แกน สแตนลีย์เปิดเผยกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 2/2566
ข้อมูลจาก FactSet ระบุว่า บรรดาบริษัทในดัชนี S&P 500 ที่ได้เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 แล้ว พบว่า 82% ในจำนวนดังกล่าวมีกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
ด้านสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านปรับตัวขึ้น 1 จุด สู่ระดับ 56 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2565
ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน และอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงมุมมองทั่วไปที่เป็นบวก