โดย Gina Lee
Investing.com – หุ้นเอเชียปรับตัวลงในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่ผู้ลงทุนรอดูปฏิกิริยาแง่ลบหลังจากเกิดการเทขายหุ้นเป็นครั้งที่สองซึ่งห่างจากครั้งแรกเพียงไม่ถึงสัปดาห์
การเทขายหุ้นเมื่อวานนี้จุดชนวนด้วยข่าวของ AstraZeneca (NYSE:AZN) ที่ประกาศพักการทดลองตัวอย่างวัคซีนโควิด-19 ที่พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด อันเป็นหนึ่งในตัวอย่างวัคซีนตัวเต็งที่มีจุดประสงค์เพื่อค้นหาวิธีการรักษาโรคโควิด-19 ทว่ามีรายงานว่าการประกาศพักการทดลองที่เกิดขึ้นนั้นมีสาเหตุมาจากปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นในร่างกายของผู้เข้าร่วมการทดลองในสหราชอาณาจักร และจึงทำให้หุ้นของบริษัทในตลาดสหรัฐดิ่งลงต่ำสุดถึง 8.3% ทั้งนี้บริษัทได้ให้คำมั่นไว้ว่าจะไม่ใช้ทางลัดในการคิดค้นการรักษาแม้จะมีแรงกดดันในการทำการทดลองให้เสร็จสิ้นและกระจายวัคซีนสู่ท้องตลาดโดยด่วนที่สุดก็ตาม
ทั้งนี้ผู้ลงทุนกำลังประเมินสถานการณ์ว่าการปรับตัวลงของหุ้นครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงภาวะของตลาดที่แท้จริง หรือเป็นจุดเริ่มต้นของขาลงครั้งใหญ่กันแน่
Peter Chatwell หัวหน้านักวางแผนกลยุทธ์สินทรัพย์จาก Mizuho International Plc ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า “หนทางที่มีแรงต้านทานต่ำที่สุดของตลาดขณะนี้ก็คือการทดสอบแนวโน้มขาลง ... ทั้งนี้หากมีการเทขายเกิดขึ้นอีก เราคาดว่าผู้ลงทุนที่มีเงินทุนสำรองจะถือโอกาสนี้ในการซื้อ Dip"
ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงติดลบ 1.38% เมื่อเวลา 22:45 น. ตามเวลาามาตรฐานตะวันออก (3:45 น. GMT) รัฐบาลฮ่องกงได้ประกาศเมื่อวานนี้ว่าจะผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์อีกหนึ่งขั้นหลังจากที่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อเพียง 6 รายเมื่อวานนี้ โดยจะอนุญาตให้เพิ่มจำนวนคนที่ร่วมรับประทานอาหารในโต๊ะเดียวกันจากสองคนเป็นสี่คน และอนุญาตให้เปิดร้านไพ่มาจอง อาคารกีฬาในร่มและกลางแจ้ง ลานสเก็ตน้ำแข็งและพิพิธภัณฑ์ รวมทั้งอนุญาตให้มีการรวมตัวกันในที่สาธารณะเพิ่มขึ้นจากสองคนเป็นสี่คน ทั้งนี้ฮ่องกงกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาเกี่ยวกับการท่องเที่ยวแบบจับคู่เดินทาง (Travel bubble) ร่วมกับออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น มาเลเซีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ สวิตเซอร์แลนด์ ประเทศไทย และเวียดนาม
ดัชนี Shanghai Composite ติดลบ 1.72% และดัชนี Shenzhen Component ปรับตัวลง 2.58%