ดัชนี S&P 500 ร่วงลงเนื่องจาก Nvidia ร่วงลงก่อนประกาศผลประกอบการ

ที Nvidiamp; P 500 ปิดลดลงในวันนี้ โดยได้รับอิทธิพลจากการร่วงลงของหุ้น Nvidia Corporation ก่อนรายงานผลประกอบการรายไตรมาสที่คาดการณ์ไว้ในปลายสัปดาห์นี้ นักลงทุน Nvidia ยังรอข้อมูลเงินเฟ้อที่อาจบ่งบอกถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในอนาคตของธนาคารกลางสหรัฐฯ

Nvidia ซึ่งเป็นผู้เล่นรายสําคัญในภาคปัญญาประดิษฐ์ เห็นหุ้นของบริษัทร่วงลงเพียงไม่กี่วันก่อนที่ บริษัท จะได้รับ Nvidia ที่จะเผยแพร่รายงานผลประกอบการในวันพุธ เหตุการณ์นี้คาดว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จับตามองอย่างใกล้ชิดที่สุดในสัปดาห์นี้ ความกังวลคือการคาดการณ์ใด ๆ จาก Nvidia ที่ไม่เกินความคาดหมายอาจส่งผลเสียต่อการเพิ่มขึ้นล่าสุดของหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI เช่น Microsoft, Alphabet และ Meta Platforms

Jake Dollarhide ซีอีโอของ Longbow Asset Management แสดงความระมัดระวังเกี่ยวกับรายงานที่กําลังจะมาถึงของ Nvidia โดยระบุว่า "Nvidia อาจทําให้ผิดหวัง ฉันคิดว่าเมื่อคุณไปถึงจุดที่คนส่วนใหญ่ไม่สงสัยด้วยซ้ําว่าอาจมีข่าวร้าย นั่นคือจุดที่คุณได้รับ"

ในขณะที่ Nasdaq Composite ที่เน้นเทคโนโลยีก็ลดลงเช่นกัน แต่ Dow Jones Industrial Average ก็สามารถปิดได้ด้วยการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยได้รับแรงหนุนจากกําไรของหุ้นของ Caterpillar Inc. และ American Express บริษัท

ในข่าวอื่น ๆ หุ้นที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ของ PDD Holdings ดิ่งลงหลังจากบริษัทซึ่งเป็นเจ้าของ Temu รายงานรายได้สําหรับไตรมาสที่สองซึ่งต่ํากว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ หุ้นของ Tesla ยังสูญเสียมูลค่าหลังจากที่แคนาดาประกาศว่าจะเข้าร่วมกับสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปในการเรียกเก็บภาษี 100% สําหรับการนําเข้ารถยนต์ไฟฟ้าของจีน

ข้อมูลเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าดัชนี S&P 500 ลดลง 16.92 จุด หรือ 0.30% เป็น 5,617.69 ในขณะที่ดัชนี Dow Jones Industri Dow Average">Dow Jones Industrial Avera Dow/mstrans:dictionary> จุด หรือ 0.83% เป็น 17 Dow Jones ในทางกลับกัน ดัชนี Dow Jones Industrial Average เพิ่มขึ้น 71.38 จุด หรือ 0.17% ปิดที่ 41,246.46 จุด

ดัชนีภาคพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเนื่องจากการหยุดชะงักของอุปทานน้ํามันเนื่องจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางทําให้ราคาน้ํามันดิบเพิ่มขึ้น

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Wall Street ประสบกับการพุ่งขึ้นโดยดัชนี S&P 500 ใกล้ถึงระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลังจากความคิดเห็นจากประธานเฟด Jerome Powell บ่งชี้ถึงความพร้อมที่จะลดต้นทุนการกู้ยืมเพื่อตอบสนองต่อความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่ลดลงและตลาดแรงงานที่อ่อนตัวลง

ขณะนี้เทรดเดอร์กําลังเดิมพันกับความเป็นไปได้ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยมีโอกาส 70% ที่จะลดลง 25 จุดพื้นฐาน และความเป็นไปได้ 30% ที่จะลด 50 จุดพื้นฐานในเดือนกันยายน ตามที่แนะนําโดยเครื่องมือ FedWatch ของ CME Group

นักลงทุนยังรอข้อมูลการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลในวันศุกร์นี้สําหรับเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นมาตรการเงินเฟ้อที่ต้องการของธนาคารกลางสหรัฐฯ และอาจชี้แจงจุดยืนของธนาคารกลางเกี่ยวกับการผ่อนคลายนโยบาย

นอกจากนี้ สัปดาห์นี้จะเห็นรายงานผลประกอบการจากบริษัทใหญ่ๆ เช่น Dell Technologies, Salesforce, Dollar General และ Gap

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน