การก่อสร้างศูนย์ข้อมูลในอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ตลาดอเมริกาเหนือกําลังประสบกับการก่อสร้างศูนย์ข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยอุปทานที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในตลาดชั้นนําพุ่งสูงขึ้นประมาณ 70% เพื่อแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.9 กิกะวัตต์ ตามรายงานของ CBRE Group Inc (นิวยอร์ก:CBRE)

การขยายตัวนี้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี ซึ่งกําลังเพิ่มปัญญาประดิษฐ์และความสามารถในการประมวลผลบนคลาวด์อย่างรวดเร็ว

ศูนย์ข้อมูลซึ่งเป็นสิ่งอํานวยความสะดวกในการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่สําหรับระบบคอมพิวเตอร์จะได้รับการประเมินในวงกว้างมากขึ้นตามการใช้พลังงาน ครึ่งแรกของปี 2024 เพียงปีเดียวได้เห็นการเปิดตัวความจุศูนย์ข้อมูลใหม่มากกว่า 500 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นจํานวนที่แข่งขันกับความจุที่มีอยู่ทั้งหมดของซิลิคอนวัลเลย์

การเปิดตัวนี้เกิดขึ้นในแปดตลาดชั้นนําในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ซึ่งถือว่าสินค้าคงคลังของศูนย์ข้อมูลใหม่เพิ่มขึ้น 10% ตั้งแต่ต้นปี และเพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ตลาดหลักสําหรับกิจกรรมศูนย์ข้อมูล ได้แก่ เวอร์จิเนียตอนเหนือ ดัลลัส และฟอร์ตเวิร์ธในเท็กซัส ซิลิคอนวัลเลย์ในแคลิฟอร์เนียตอนกลาง ชิคาโก ฟีนิกซ์ในแอริโซนา นิวยอร์ก ไตรสเตท แอตแลนตา และฮิลส์โบโรในโอเรกอน อัตราการว่างของศูนย์ข้อมูลลดลงสู่ระดับต่ําสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.8% ซึ่งบ่งชี้ถึงตลาดที่ตึงตัวและราคาที่สูงขึ้น

ศูนย์ข้อมูลที่ใหม่กว่ากําลังดึงราคาพรีเมียมเมื่อเทียบกับสิ่งอํานวยความสะดวกรุ่นเก่า ซึ่งอาจประสบปัญหาในการตอบสนองความต้องการด้านพลังงานของผู้ใช้ปัจจุบัน

รายงานแนวโน้มศูนย์ข้อมูลของ CBRE ชี้ให้เห็นว่าความต้องการคอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังสูงทําให้เกิดช่องว่างราคาระหว่างศูนย์ข้อมูลเก่าและศูนย์ข้อมูลใหม่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสิ่งอํานวยความสะดวกรุ่นเก่าไม่สามารถรองรับความต้องการพลังงานสูงของบริษัทเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้

ความต้องการสิ่งอํานวยความสะดวกที่ใหม่กว่าคาดว่าจะเพิ่มความน่าดึงดูดใจของตลาดขนาดเล็กเช่นอินเดียนาตอนเหนือไอดาโฮอาร์คันซอและแคนซัสซึ่งอาจเป็นที่ต้องการมากขึ้นสําหรับการพัฒนาศูนย์ข้อมูล

ข้อมูลเชิงลึกของ InvestingPro

การเติบโตอย่างรวดเร็วในการก่อสร้างศูนย์ข้อมูลและความต้องการอสังหาริมทรัพย์ นิวยอร์ก ที่ตามมาสะท้อนให้เห็นในผลการดําเนินงานของ CBRE Group Inc (NYSE:CBRE) ซึ่งอยู่ในระดับแนวหน้าของตลาดที่กําลังขยายตัวนี้ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของบริษัทอยู่ที่ 33.61 พันล้านดอลลาร์ที่แข็งแกร่ง ซึ่งเน้นย้ําถึงการมีอยู่ที่สําคัญในอุตสาหกรรม การเติบโตของรายได้ของซีบีอาร์อีในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมาจนถึงไตรมาสที่ 2 ปี 2567 อยู่ที่ 7.42% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการใช้ประโยชน์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของภาคเทคโนโลยี

เคล็ดลับ InvestingPro ที่น่าสังเกตคือ CBRE ดําเนินงานด้วยหนี้ในระดับปานกลาง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวทางที่สมดุลในการใช้ประโยชน์จากความมั่นคงทางการเงิน สิ่งนี้มีความเกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งสําหรับนักลงทุนที่พิจารณาถึงลักษณะของการพัฒนาและการจัดการอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้เงินทุนมาก

ประเด็นสําคัญอีกประการหนึ่งคือสินทรัพย์สภาพคล่องของซีบีอาร์อีเกินภาระผูกพันระยะสั้น ซึ่งบ่งชี้ว่าบริษัทอยู่ในตําแหน่งที่ดีในการปฏิบัติตามภาระผูกพันทางการเงินในทันที นี่เป็นปัจจัยสําคัญสําหรับการรักษาการดําเนินงานและการลงทุนในโครงการใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่มีความต้องการพัฒนาศูนย์ข้อมูลเพิ่มขึ้น

นักลงทุนที่สนใจในการวิเคราะห์เชิงลึกจะได้พบกับข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับซีบีอาร์อี รวมถึงกลยุทธ์ของฝ่ายบริหารในการซื้อหุ้นคืนและการประเมินมูลค่าของบริษัท มีเคล็ดลับ InvestingPro อีก 19 ข้อเพื่อให้ความเข้าใจอย่างครอบคลุมเกี่ยวกับสถานะทางการเงินและสถานะทางการตลาดของซีบีอาร์อี ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ผ่านแพลตฟอร์ม InvestingPro ที่ https://www.investing.com/pro/CBRE

การมีส่วนร่วมของซีบีอาร์อีในตลาดศูนย์ข้อมูลที่เฟื่องฟูเป็นข้อพิสูจน์ถึงบทบาทที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมการจัดการและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากความต้องการสิ่งอํานวยความสะดวกด้านข้อมูลที่ทันสมัยยังคงเพิ่มขึ้น ตัวชี้วัดทางการเงินและการวางตําแหน่งเชิงกลยุทธ์ของซีบีอาร์อีจะเป็นปัจจัยสําคัญสําหรับนักลงทุนในการติดตาม

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน