นิวยอร์ก - JetBlue Airways Corporation (NASDAQ:JBLU) ประกาศผลประกอบการทางการเงินในเชิงบวกสําหรับไตรมาสที่สองของปี 2024 โดยมีรายได้และรายได้สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ หุ้นเพิ่มขึ้น 3.2% หลังจากผลประกอบการ
สายการบินรายงานกําไรต่อหุ้น (EPS) ที่ปรับปรุงแล้วที่ 0.08 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าฉันทามติของนักวิเคราะห์ที่ -0.13 ดอลลาร์อย่างมีนัยสําคัญ รายได้สําหรับไตรมาสสูงถึง 2.43 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าประมาณการที่เป็นเอกฉันท์ที่ 2.4 พันล้านดอลลาร์
ผลการดําเนินงานในไตรมาสที่สองของ JetBlue แสดงให้เห็นว่ารายได้จากการดําเนินงานลดลง 6.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี (YoY) ซึ่งอยู่ที่ 2.4 พันล้านดอลลาร์ แม้จะลดลง แต่บริษัทก็สามารถแซงหน้าเป้าหมายคําแนะนําและรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาด ค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบเป็นรายปีที่ 0.1% โดยค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานเพิ่มขึ้น 2.6% ต่อไมล์ที่นั่งที่มีอยู่ (CASM)
Joanna Geraghty ซีอีโอแสดงความพึงพอใจกับทิศทางของบริษัท โดยระบุว่า "เราปิดครึ่งแรกของปี 2024 ด้วยการปรับปรุงการดําเนินงานของเราอย่างมีความหมายเมื่อเทียบเป็นรายปี และเกินคําแนะนําในไตรมาสที่สองของเราผ่านการดําเนินการที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นหลักฐานเบื้องต้นที่การเปลี่ยนแปลงที่เรากําลังดําเนินการซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นใหม่ของเรากําลังให้ประโยชน์ในเชิงบวก"
เมื่อมองไปข้างหน้า JetBlue คาดว่าไมล์ที่นั่งว่าง (ASM) จะลดลงตั้งแต่ 6.0% ถึง 3.0% สําหรับไตรมาสที่สาม และลดลง 5.0% ถึง 2.5% สําหรับทั้งปีของปี 2024 รายได้คาดว่าจะลดลง 5.5% ถึง 1.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนในไตรมาสที่สาม และลดลง 6.0% ถึง 4.0% สําหรับทั้งปี บริษัทยังคาดการณ์ว่า CASM ex-Fuel จะเพิ่มขึ้น 6.0% ถึง 8.0% YoY สําหรับไตรมาสที่สาม และ 6.5% ถึง 8.5% สําหรับทั้งปี
CFO Ursula Hurley ให้ความเห็นเกี่ยวกับอนาคตของบริษัทว่า "แม้ว่าความคิดริเริ่มพื้นฐานเหล่านี้จํานวนมากจะต้องใช้เวลาในการเพิ่มศักยภาพสูงสุด แต่ด้วยรากฐานที่แข็งแกร่งของ JetForward เราพร้อมที่จะสร้าง EBIT ที่เพิ่มขึ้น 800 - 900 ล้านดอลลาร์ตั้งแต่ปี 2025 ถึง 2027"
แผนกลยุทธ์ของ JetBlue JetForward ตั้งเป้า EBIT ที่เพิ่มขึ้น 800 ล้านดอลลาร์ - 900 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2027 โดยขับเคลื่อนโดยการบริการลูกค้าที่ได้รับการปรับปรุง สายการบินยังประกาศเลื่อนค่าใช้จ่ายด้านทุนประมาณ 3.0 พันล้านดอลลาร์จนถึงปี 2029 เพื่อปรับปรุงกระแสเงินสดและฟื้นฟูความสมบูรณ์ของงบดุล
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน