รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

หุ้นเอเชียอ่อนไหว ความเชื่อมั่นยังคงตึงเครียด

เผยแพร่ 03/10/2565 13:12
อัพเดท 03/10/2565 14:17
© Reuters.

โดย Ambar Warrick 

Investing.com – หุ้นเอเชียร่วงลงในวันจันทร์ ถือเป็นการเริ่มต้นสัปดาห์ที่อ่อนแอในไตรมาสที่สี่ เนื่องจากตลาดยังคงกังวลเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้ความต้องการสินทรัพย์ที่ขับเคลื่อนด้วยความเสี่ยงร่วงลงอย่างมาก

ปริมาณการซื้อขายในภูมิภาคก็ทรงตัวเช่นกันเนื่องจากตลาดจีนเริ่มวันหยุดยาวหนึ่งสัปดาห์ ในขณะที่ตลาดเกาหลีใต้ก็ปิดเช่นกัน

ดัชนีกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ยังคงทำผลงานได้ไม่ดีนัก เนื่องจากนักลงทุนปรับลดรายได้ในอนาคตเพราะผลตอบแทนพันธบัตรและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ดัชนี ฮั่งเส็ง ของฮ่องกงร่วงลง 1.6% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี ขณะที่ ดัชนี Taiwan Weighted ร่วง 0.7% และปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี

ความกังวลเกี่ยวกับการกระชับนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ได้รับความสนใจอย่างเต็มที่ในสัปดาห์นี้ ก่อนข้อมูลสำคัญอย่าง รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร จะครบกำหนดรายงานในวันศุกร์ ซึ่งเป็นรายงานที่มีผลต่อเฟดสำหรับแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งด้วยนั้นจะทำให้ธนาคารกลางมีพื้นที่มากขึ้นในการขยับขึ้นดอกเบี้ย

ดัชนีดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.1% ในวันจันทร์ โดยฟื้นตัวจากการขาดทุนล่าสุด และบ่งชี้ว่าการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยยังคงแข็งแกร่ง

อัตราดอกเบี้ยในประเทศอื่น ๆ ยังมีแนวโน้มสูงขึ้นอีกด้วย ดัชนี ASX 200 ของออสเตรเลียร่วงลง 0.3% ก่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางในวันอังคารนี้

มีการคาดว่าธนาคารจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 50 จุดพื้นฐาน เพื่อพยายามควบคุมอัตราเงินเฟ้อซึ่งมีแนวโน้มสูงสุดในรอบ 20 ปี

หุ้นญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่ต่างออกไป ดัชนี นิคเคอิ 225 พุ่งขึ้น 1% แม้ว่าข้อมูลจะแสดงให้เห็นว่าความเชื่อมั่นทางธุรกิจในประเทศแย่ลงในช่วงไตรมาสที่สาม

แต่ดัชนีก็ซื้อขายใกล้ระดับต่ำสุดในรอบสามเดือน ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ประสบกับเดือนที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่โควิด19 ระบาดปี 2020 ในเดือนกันยายน

อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทั่วโลกส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดหุ้นในปีนี้ โดยตลาดหุ้นเอเชียที่มีความเสี่ยงสูงถูกเทขายออกอย่างหนัก แนวโน้มดังกล่าวคาดว่าจะดำเนินต่อไปเนื่องจากนโยบายการเงินทั่วโลกมีความเข้มงวดมากขึ้น

ความเชื่อมั่นต่อสินทรัพย์ที่ขับเคลื่อนด้วยความเสี่ยงแย่ลงในช่วงสุดสัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับกลุ่ม Credit Suisse ของธนาคารสวิส (NYSE:CS) ซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลก กำลังเผชิญกับการตรวจสอบสถานะทางการเงินที่เพิ่มขึ้น หลังจากสเปรดของสัญญาแลกเปลี่ยนเครดิตซึ่งให้การป้องกันการผิดนัดชำระหนี้นั้น ได้เพิ่มขึ้นเป็นระดับสูงสุด ตั้งแต่วิกฤตการเงินปี 2008

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย