โดย Ambar Warrick
Investing.com – ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงในวันศุกร์ โดยดัชนีภูมิภาคส่วนใหญ่เคลื่อนไหวสู่การขาดทุนรายสัปดาห์ ท่ามกลางความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ยังคงท่าทีดุดันต่อนโยบายการเงินและความกลัวว่าเศรษฐกิจโลกจะถดถอย
ดัชนี CSI 300 และ เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีน จัดอยู่ในกลุ่มที่ทำผลงานแย่ที่สุดในวัน โดยลดลงมากกว่า 1% ของแต่ละรายการ หุ้นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ส่งผลกระทบมากที่สุดในดัชนีทั้งสอง หลังจากรายงานข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ดัชนีราคาบ้าน ในจีนลดลงในระดับที่เลวร้ายที่สุดในรอบเจ็ดปี
การขาดทุนในหุ้นอสังหาริมทรัพย์ได้ทำให้ดัชนี ฮั่งเส็ง ของฮ่องกงร่วงลง 0.6%
แม้ว่าจะมีรายงานข้อมูลที่แสดงตัวเลขการเติบโตที่ไม่คาดคิดใน ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม และ ดัชนียอดค้าปลีก ของจีน แต่คาดว่าหุ้นจีนจะร่วงลงมากกว่า 3% ในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศ นโยบายปลอดโควิดที่เข้มงวดของปักกิ่งส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจจีนในปีนี้
สำหรับตลาดหุ้นเอเชียนั้นก็รับไม้ต่อจากตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่อ่อนตัวลงเช่นกัน เนื่องจากอัตราของการขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลงอย่างต่อเนื่อง บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯ แข็งแกร่งทำให้เฟดมีพื้นที่มากขึ้นในการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอย่างรวดเร็ว
ตลาดกำลังกำหนดราคาใน โอกาส 75% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 75 จุดพื้นฐานในสัปดาห์หน้า และเทรดเดอร์ยังเริ่มกำหนดราคาด้วยความเป็นไปได้ที่จะมีการขึ้น 100 จุดพื้นฐาน หลังจากที่ ข้อมูลเงินเฟ้อ สหรัฐฯ พุ่งขึ้นเกินคาดในสัปดาห์นี้
และปัจจัยที่ทำให้ความเชื่อมั่นลดน้อยลงอีกคือ ธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศได้เตือนถึงภาวะถดถอยที่อาจเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า อัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงชันคาดว่าจะส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้และปีหน้า
ดัชนี Nifty 50 ของอินเดียลดลง 1.1% ในขณะที่ Taiwan Weighted ลดลง 0.9% IDX คอมโพสิต ของอินโดนีเซียดิ่งลง 1.7% แซงหน้าคู่แข่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ดัชนี KOSPI ของเกาหลีใต้ร่วงลง 1% หลังจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ดุลการค้า ของประเทศร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ในเดือนสิงหาคม ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงและเงิน วอน ที่อ่อนค่า ได้ผลักดันต้นทุนการนำเข้าของเกาหลีใต้ในปีนี้ให้เพิ่มขึ้นซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจ
SET ร่วงลง -0.39% มาอยู่ที่ 1,635.95 จุด จากความกังวลเงินเฟ้อและค่าเงินบาทที่อ่อนค่าอย่างรุนแรงในวันนี้ ตอกย้ำวิกฤติต้มกบที่ไทยกำลังเผชิญอยู่