Investing.com - สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ที่ว่าภาษีการค้าภายใต้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะผ่อนปรนลง ส่วนเงินดอลลาร์ทรงตัวหลังจากขาดทุนในเซสชั่นก่อนหน้า
เงินหยวนจีนยังคงล้าหลังเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ในภูมิภาค หลังจากคู่เงินภายในประเทศอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 17 ปีเมื่อวันจันทร์ แม้ว่าจะมีการฟื้นตัวเล็กน้อย แต่สกุลเงินก็ยังคงเปราะบาง เนื่องจากข้อจำกัดใหม่ของสหรัฐฯ ต่อบริษัทจีนได้กดดันค่าเงินเพิ่มอีก
ดอลลาร์ฟื้นตัวจากการขาดทุนในช่วงคืนก่อนหน้า หลังมีรายงานการคาดเดาเกี่ยวกับแผนภาษีของทรัมป์
คู่เงิน USD/JPY ของเยนญี่ปุ่นปรับตัวขึ้น 0.4% แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบหกเดือน ขณะที่คู่เงิน AUD/USD ของดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้น 0.2% โดยข้อมูลเงินเฟ้อ CPI ประจำเดือนพฤศจิกายนมีกำหนดการณ์จะประกาศในวันพุธนี้
คู่เงิน USD/KRW ของวอนเกาหลีใต้ปรับลดลงเล็กน้อย ขณะที่คู่เงิน USD/INR ของรูปีอินเดียทรงตัวหลังจากฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากระดับสูงสุดเหนือ 86 รูปี
เงินดอลลาร์ทรงตัวจากการคาดเดาเรื่องภาษี
ดัชนีดอลลาร์ และ ดัชนีดอลลาร์ฟิวเจอร์ส ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในตลาดเอเชีย โดยฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์ที่แตะเมื่อวันจันทร์
เงินดอลลาร์ฟื้นตัวจากการขาดทุนส่วนใหญ่ในวันจันทร์ หลังจากทรัมป์ปฏิเสธรายงานของ Washington Post ที่ระบุว่ารัฐบาลของเขาจะกำหนดภาษีการค้าที่ผ่อนปรนกว่าที่เคยสัญญาไว้
ทรัมป์ ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งในอีกไม่ถึงสองสัปดาห์ ได้ให้คำมั่นว่าจะกำหนดภาษีนำเข้าที่สูงต่อจีนและเศรษฐกิจหลักอื่น ๆ ซึ่งสร้างความกังวลต่อสงครามการค้ารอบใหม่
ความเป็นไปได้ที่จะเกิดการเพิ่มภาษีถือเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนเงินดอลลาร์ในช่วงที่ผ่านมา เช่นเดียวกับความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่ช้าลงในปี 2025 อีกทั้งความคิดเห็นเชิง hawkish ของเจ้าหน้าที่เฟดในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็เสริมมุมมองนี้อีกด้วย
ความสนใจในสัปดาห์นี้จึงอยู่ที่ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ การจ้างงานนอกภาคการเกษตร สำหรับเดือนธันวาคม ซึ่งมีกำหนดการณ์ประกาศในวันศุกร์ เพื่อเป็นสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐฯ
เงินหยวนจีนอ่อนแอจากความกังวลเรื่องการค้ากับสหรัฐฯ
เงินหยวนจีนถือเป็นสกุลเงินเอเชียที่อ่อนค่ามากที่สุดในสัปดาห์นี้ หลังจากแตะระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปีเมื่อวันจันทร์
คู่เงิน USD/CNY ของเงินหยวนภายในประเทศเพิ่มขึ้น 0.3% ในวันนี้ โดยเงินหยวนยังคงเปราะบางท่ามกลางแนวโน้มแรงกดดันทางการค้าจากสหรัฐฯ
ในวันนี้สหรัฐฯ ได้เพิ่มบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ Tencent Holdings Ltd (HK:0700) และ Contemporary Amperex Technology (SZ:300750) ในบัญชีดำของบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับกองทัพจีน ซึ่งอาจส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองเศรษฐกิจใหญ่ของโลกยิ่งตึงเครียด
ปักกิ่งคาดว่าจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อตอบโต้สงครามการค้ารอบใหม่กับสหรัฐฯ
ความสนใจในสัปดาห์นี้จึงต้องโฟกัสไปที่ข้อมูล เงินเฟ้อ ของจีน ซึ่งมีกำหนดการณ์จะประกาศในวันพฤหัสบดี เพื่อหาสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งกำลังดิ้นรนเพื่อสนับสนุนการเติบโต