ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง ข้อมูล PMI ชี้ให้เห็นความอ่อนแอของตลาดในอนาคต

© Reuters

โดย Peter Nurse

Investing.com - ตลาดหุ้นยุโรปซื้อขายผันผวน ในวันอังคาร หลังจากการเปิดเผยข้อมูลกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญ แต่ภาพรวมยังคงนิ่ง เนื่องจากความกังวลเรื่องภาวะ เงินเฟ้อ ที่พุ่งสูงขึ้นจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูง และการเจริญเติบโตที่ชะลอตัว

เมื่อ 03:55 น. ET (07:55 GMT) DAX ของเยอรมนีซื้อขายสูงขึ้น 0.4% CAC 40 ในฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 0.2% ขณะที่ FTSE 100 ของสหราชอาณาจักรลดลง 0.2%

ข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อต้นวันอังคารที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าสองประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปอาจหดตัวในเดือนสิงหาคมอันเป็นผลมาจากวิกฤตพลังงานในภูมิภาค

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของ S&P สำหรับ เยอรมัน และ ฝรั่งเศษ ลดลงมาที่ 47.6 และ 49.8 ตามลำดับ ซึ่งทั้งสองต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งโดยทั่วไปจะแยกการเติบโตจากการหดตัว นั่นคือระดับต่ำสุดในรอบ 26 เดือนสำหรับเยอรมนีและต่ำสุดในรอบ 18 เดือนสำหรับฝรั่งเศส S&P กล่าวเมื่อวันอังคาร

อย่างไรก็ตาม มีข่าวดีอยู่บ้าง เนื่องจาก ภาคการผลิตของเยอรมนี ดีขึ้นเกินคาด โดยเพิ่มขึ้นเป็น 49.8 จาก 49.3 และท้าทายความกลัวว่าจะมีการชะลอตัวลงอีกจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่ปรับตัวดีขึ้น และแรงกดดันด้านราคานำเข้าบางส่วนที่ผ่อนคลายลงเล็กน้อย

ถึงกระนั้น ความเชื่อมั่นโดยรวมยังคงอ่อนแอจากอัตราเงินเฟ้อที่ใกล้เลขสองหลัก ธนาคารกลางยุโรป เริ่มปรับนโยบายการเงินให้เข้มงวดขึ้น ในขณะที่ฤดูหนาวที่พลังงานขาดแคลนกำลังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว

ราคา ก๊าซ ในสหภาพยุโรปพุ่งสูงขึ้นอีกครั้งในชั่วข้ามคืน เนื่องจากความเสียหายต่อระบบท่อส่งน้ำมันหลักที่ใช้น้ำมันจากคาซัคสถานผ่านรัสเซียและยุโรปทำให้อุปทานหยุดชะงัก

บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย Gazprom จะหยุดการจัดหาผ่านท่อส่งน้ำ Nord Stream ในช่วงสิ้นเดือนสำหรับการซ่อมบำรุง 

Bundesbank กล่าวในรายงานรายเดือนเมื่อวันจันทร์ว่าภาวะถดถอยในเยอรมนี ซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของยูโรโซนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในวันอังคาร หลังจากเจ้าชายอับดุลอาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของซาอุดีอาระเบียกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าองค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันพร้อมที่จะลดการผลิตเพื่อแก้ไขราคาน้ำมันที่ตกเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยระบุว่าตลาดซื้อขายล่วงหน้าได้เพิกเฉยต่ออุปทานน้ำมันดิบที่ตึงตัว 

กลุ่มพันธมิตรได้ยกเลิกการลดกำลังการผลิตทั้งหมดที่เกิดขึ้นในช่วงการระบาดใหญ่ในช่วงที่มีความผันผวนอย่างมากนับตั้งแต่การบุกโจมตียูเครนของรัสเซียทำให้การซื้อขายพลังงานหยุดชะงัก

ภายใน 04:05 น. ET สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.1% ที่ 91.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ เพิ่มขึ้น 0.7% เป็น 97.14 ดอลลาร์ เกณฑ์มาตรฐานทั้งสองลดลงประมาณ 5% จากเดือนที่แล้ว โดยน้ำมันทั้งสองเคยซื้อขายมากกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

นอกจากนี้ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ เพิ่มขึ้น 0.2% เป็น 1,751.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ EUR/USD ซื้อขายลดลง 0.1% ที่ 0.9927