โดย Peter Nurse
Investing.com - ตลาดหุ้นยุโรปอ่อนค่าลงเมื่อวันอังคาร จากความกังวลด้านการเมืองระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
เมื่อเวลา 03:40 น. ET (07.40 GMT) DAX ในเยอรมนีซื้อขายลดลง 0.6% CAC 40 ในฝรั่งเศสลดลง 0.4% ขณะที่ FTSE 100 ของสหราชอาณาจักรทรงตัว
ตลาดหุ้นในยุโรปได้รับแรงหนุนเชิงลบจากเอเชียหลังจากรายงานของสื่อในไต้หวันระบุว่าโฆษกสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกา แนนซี เพโลซี จะไปเยือนเขตแดนที่ปักกิ่งอ้างสิทธิ์ภายหลังในวันนี้
การเคลื่อนไหวดังกล่าวจะทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก โดยโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน Zhao Lijian กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าจะนำไปสู่ “ผลลัพท์ที่ตามมาอย่างร้ายแรง”
นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังกล่าวหารัสเซียว่าใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดของยูเครนเป็น "เกราะป้องกันนิวเคลียร์" โดยส่งกองทหารไปประจำการที่นั่นทำให้เกิดการสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุนิวเคลียร์
ปัจจัยที่ทำให้หุ้นยุโรปลดลงมาจากข้อมูล PMI ภาคการผลิตจาก สหรัฐฯ ยุโรป และเอเชียซึ่งถูกเปิดเผยในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมโรงงานชะลอตัวในเดือนกรกฎาคม ซึ่งได้เพิ่มความกลัวภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ข่าวดีที่พอจะลดการสูญเสียได้บ้างคือรายได้ผลประกอบการของบริษัทประจำไตรมาสที่ทำผลงานได้ดี
หุ้น BP (LON:BP) เพิ่มขึ้น 4.5% หลังจากที่กำไรใน ไตรมาสที่สอง ของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานพุ่งขึ้นสู่ 8.45 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 14 ปี เนื่องจากค่าการกลั่นน้ำมันที่สูงขึ้น การซื้อขายช่วยเพิ่มเงินปันผลและการซื้อหุ้นคืน
หุ้น AP Moeller-Maersk (CSE:MAERSKb) เพิ่มขึ้น 1.5% หลังจากที่บริษัทขนส่งยักษ์ใหญ่ของเดนมาร์กได้ปรับคำแนะนำสำหรับทั้งปีในวันอังคารเนื่องจากอัตราค่าระวางสินค้าทั่วโลกที่คาดการณ์ไว้เป็นเวลานานล้มเหลวอีกครั้งในไตรมาสที่สอง
หุ้น Greggs (LON:GRG) เพิ่มขึ้น 2.2% หลังจากเครือร้านเบเกอรี่ในสหราชอาณาจักรกล่าวว่ายอดขายเพิ่มขึ้น 27% จากปีก่อนหน้าในช่วงครึ่งปีแรก ทำให้สามารถคงประมาณการกำไรสำหรับปีไว้ได้ไม่เปลี่ยนแปลงแม้จะมีแรงกดดันด้านต้นทุนอย่างต่อเนื่อง
ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในวันอังคาร เป็นการเทขายต่อเนื่องจากเซสชั่นก่อนหน้า สาเหตุคือนักลงทุนเกรงว่าการชะลอตัวของการผลิตทั่วโลกจะส่งผลกระทบกับความต้องการ โดยร่วงลงก่อนการประชุมผู้ผลิตชั้นนำเพื่อหารือเกี่ยวกับผลผลิตในอนาคต
องค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร หรือกลุ่มที่รู้จักกันในชื่อ OPEC+ มีกำหนดจะประชุมกันในวันพุธนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการจัดหาผลผลิตในอนาคต
เมื่อเร็ว ๆ นี้ OPEC ได้ยกเลิกการลดอุปทานน้ำมันในยุคโรคระบาด และขณะนี้คาดว่าจะรักษาระดับการผลิตให้คงที่ แม้จะมีแรงกดดันจากสหรัฐฯ ให้เพิ่มผลผลิตก็ตาม
ในเวลา 03:40 น. ET สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ลดลง 0.3% เป็น 93.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ ลดลง 0.6% เป็น 99.46 ดอลลาร์
นอกจากนี้ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ ซื้อขายทรงตัวที่ 1,787.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขณะที่ EUR/USD ซื้อขายลดลง 0.5% เป็น 1.0215