โดย Yasin Ebrahim
Investing.com -- ดัชนีดาวโจนส์เริ่มต้นสัปดาห์ที่ดีในวันจันทร์ เนื่องจากการปรับขึ้นของภาคพลังงานชดเชยการอ่อนแอลงในภาคเทคโนโลยี ก่อนรายรับรายไตรมาสจากเทคโนโลยีรายใหญ่และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐที่จะเริ่มขึ้นในสัปดาห์นี้
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 0.28% หรือ 90 จุด ส่วน Nasdaq ลดลง 0.41% และ S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.15%
พลังงานเพิ่มขึ้นมากกว่า 3% โดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับความกลัวอุปทาน
ราคา ก๊าซธรรมชาติ ขณะเดียวกันก็พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากที่ Gazprom ของรัสเซียกล่าวว่าจะลดการส่งก๊าซของยุโรปผ่าน Nord Stream เหลือ 20% เนื่องจากปัญหาการบำรุงรักษา
APA (NASDAQ:APA), Marathon Oil (NYSE:MRO) และ Diamondback Energy (NASDAQ:FANG) เป็นกลุ่มที่ทำกำไรได้มากที่สุด หุ้นทุกตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 6%
ในขณะเดียวกัน ภาคการเงินก็มีบทบาทในการไต่ระดับของตลาดในวงกว้าง โดยได้รับแรงหนุนจากกธนาคารในภูมิภาคเนื่องจากอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสูงขึ้น
SVB Financial Group (NASDAQ:SIVB) พุ่งขึ้นมากกว่า 8% หลังจากที่ Evercore ปรับอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้น
ภาคเทคโนโลยีรักษากำไรในตลาดที่กว้างขึ้นโดยผลประกอบการรายไตรมาสจากเทคโนโลยีขนาดใหญ่ Microsoft Corporation (NASDAQ:MSFT) และ Alphabet (NASDAQ:GOOGL) จะรายงานรายได้ในวันอังคาร โดยมีรายงานจาก Meta (NASDAQ:META) Amazon (NASDAQ:AMZN) และ Apple (NASDAQ:AAPL) จะตามมาในปลายสัปดาห์นี้
การปรับตัวขึ้นของเทคโนโลยีตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนใกล้เคียงกับอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรที่ลดลง ทำให้น่าดึงดูดยิ่งขึ้นในการเป็นเจ้าของภาคส่วนการเติบโตที่มีมูลค่าสูงกว่าของตลาด เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังอัตราเงินเฟ้อกำลังลดลง การเติบโตทางเศรษฐกิจอ่อนตัวลง
“สภาวะทางการเงินที่ตึงตัวจนถึงปัจจุบันมีมากพอแล้ว และวิถีการเติบโตก็ต่ำอยู่แล้วจนการเร่งความเร็วด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะมีความเสี่ยงโดยไม่จำเป็น” Goldman Sachs กล่าวในบันทึกล่าสุด โดยคาดการณ์ว่าเฟดจะ {{ecl -168||ขึ้นอัตรา}} 0.75% ในวันพุธ
หุ้นอุปโภคบริโภคก็เป็นแรงกดดันตลาดเช่นกัน ตามความอ่อนแอของหุ้นค้าปลีกและหุ้นสร้างบ้าน
ด้านผลประกอบการ Newmont Goldcorp (NYSE:NEM) ทรุดตัวลง 13% หลังจากบริษัททำเหมือง รายงาน กำไรรายไตรมาสต่ำกว่าที่ Wall Street ประมาณการไว้
หุ้นที่เกี่ยวข้องกับคริปโตก็ตกต่ำเช่นกัน เนื่องจาก Bitcoin ลดลงมากกว่า 3% MicroStrategy (NASDAQ:MSTR), Riot Blockchain (NASDAQ:RIOT) และ Coinbase Global (NASDAQ:COIN) ลดลงมากกว่า 5%