โดย Geoffrey Smith
Investing.com – ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดปรับตัวขึ้นในวันพฤหัสบดีเนื่องจากกระแสข่าวการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเป็นครั้งแรกในรอบสามปีเริ่มจางหายไป
เมื่อเวลา 4:15 น. ET (0815 GMT) ราคาหุ้น Euro Stoxx 50 เพิ่มขึ้น 0.2% ในขณะที่หุ้นที่กว้างกว่าอย่าง Stoxx 600 เพิ่มขึ้น 1.8 จุด หรือ 0.4% หุ้นทั้งสองเพิ่มขึ้น 4% และ 3% ตามลำดับในวันพุธ เนื่องจากตลาดของสหรัฐฯได้เคลื่อนไหวรับกับความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับความหวังที่เพิ่มขึ้นในข้อตกลงเจรจาหยุดสงครามรัสเซีย - ยูเครน IBEX ของสเปนทำกำไรเพิ่มขึ้น 0.7% ในขณะที่ FTSE MIB ของอิตาลีค่อยข้างชะลอตัวและยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ DAXของเยอรมัน เพิ่มขึ้น 0.1% ในขณะที่ FTSE 100 เพิ่มขึ้น 0.5%
เฟดปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น 25 จุดพื้นฐานตามที่มีการคาดการณ์ไว้ และระบุว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 6 ครั้งในปีนี้และจะเข้มงวดขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปี 2023 เพื่อจุดประสงค์ในการขายพอร์ตลงทุนในส่วนพันธบัตร ตลาดได้เริ่มผ่อนคลายลงในเหตุการณ์นี้และจากการที่เฟดกล่าวว่านโยบายนี้จะทำให้ตลาดตึงตัวแต่จะไม่ทำให้เกิดภาวะถดถอย นักวิเคราะห์บางคนตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการมองโลกในแง่ดีนั้น เช่นเดียวกับตลาดตราสารหนี้ที่เส้นอัตราผลตอบแทนทรงตัวเป็นอย่างมาก ซึ่งปกติแล้วเป็นพัฒนาการที่ส่งสัญญาณการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในอนาคต
วันพฤหัสบดีมีแนวโน้มที่ตลาดจะผันผวน เพราะการดำเนินการของธนาคารกลางในยุโรปโดยธนาคารแห่งอังกฤษที่คาดว่าจะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีก 25 จุดพื้นฐานเป็น 0.75% นอกจากนี้ ธนาคารกลางยุโรปจะจัดการประชุมประจำปีซึ่งคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป ฟิลลิป เลน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ และอิซาเบล ชนาเบล สมาชิกคณะกรรมการ จะออกแถลง
ค่าเงินยุโรปปรับตัวสูงขึ้นเป็นผลจากการกระทำของเฟดเมื่อวันพุธที่ผ่านมาหลังจากเกิดสงครามครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่ปี 2488 เป็นเวลาสองสามสัปดาห์ นับเป็นเหตุการณ์ที่น่าจะกระทบเศรษฐกิจของยุโรปและหนักกว่าสหรัฐฯ มาก เงินยูโร เพิ่มขึ้น 0.2% ที่ 1.1051 ดอลลาร์ โดย เงินปอนด์ เพิ่มขึ้น 0.2% ที่ 1.13175ดอลลาร์ ในขณะเดียวกันในรัสเซีย เงินรูเบิล ยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 3% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 104.27 เมื่อเทียบกับดอลลาร์
ตลาดต่างจับตามองทุกสัญญาณแห่งสันติภาพในยุโรปตะวันออก แม้ว่าจะยังห่างไกลจากความชัดเจนว่าการเจรจาในปัจจุบันสามารถบรรลุผลดังกล่าวได้หรือไม่ สหรัฐฯ ตกลงในวันพุธที่จะส่งเงินช่วยเหลือทางทหารเพิ่มอีก 1 พันล้านดอลลาร์หลังจากที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ยูเครนขอร้องสภาคองเกรสให้ช่วยเหลือในการยุติการปฏิบัติการทางอากาศของรัสเซียในยูเครนนี้ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ยังเรียกวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียว่า "อาชญากรสงคราม" ซึ่งอาจจะทำให้การเจรจาในอนาคตยุ่งยากขึ้น นอกจากนี้ จีนซึ่งถูกมองว่าเป็นประเทศเดียวที่สามารถจูงใจรัสเซียให้ยุติสงครามได้ กลับปฏิเสธที่จะประณามการบุกรุกดังกล่าว
ข่าวระดับองค์กร Ocado กลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ตและโลจิสติกส์ของสหราชอาณาจักร (LON:OCDO) ลดลง 8.0% หลังจากที่มีการลดลงใน รายรับไตรมาสแรก ขณะที่การผลิตเหล็กและวิศวกรรมของเยอรมนี กลุ่ม Thyssenkrupp (DE:TKAG) ก็ลดลงเช่นกัน 8% หลังจากออกคำเตือนว่าการตั้งบริษัทใหม่อาจจะต้องชะลอออกไปเนื่องจากเหตุการณ์ในยูเครน บริษัทกล่าวว่ายังคงเชื่อว่าการตั้งบริษัทใหม่จะเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด
มีข่าวเศรษฐกิจตกต่ำจากภาครถยนต์มากขึ้น ยอดขายรถยนต์ของสหภาพยุโรปลดลง 6.7% ในเดือนกุมภาพันธ์ตามข้อมูลของสมาคมอุตสาหกรรม ACEA และการผลิตรถยนต์ของยุโรปที่ได้รับผลกระทบนับตั้งแต่เริ่มสงครามแสดงให้เห็นว่าจะแย่กว่านั้นในเดือนมีนาคม