โดย Oliver Gray
Investing.com - ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟิวเจอร์สพุ่งขึ้นในช่วงต้นของวันพุธ หลังจากที่ nasdaq และ S&P ทำสถิติใหม่ระหว่างวันในชั่วข้ามคืน เนื่องจากนักลงทุนมองว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะเอาชนะอัตราการติดเชื้อโควิดที่พุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวพุ่งสูงขึ้น ผลักดันบริษัทเทคโนโลยีให้ต่ำลง
ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 214.59 จุด หรือประมาณ 0.5% ปิดระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 36,799.65 และทำลายสถิติระหว่างวันในช่วงก่อนหน้าของเซสชั่น S&P 500 ก็ทำสถิติสูงสุดระหว่างวันเช่นกัน แต่ช่วงบวกถูกจำกัดจากการสูญเสียในภาคเทคโนโลยี สิ้นสุดวันลดลง 0.06% ตกลงมาที่ 4,793.54 Nasdaq Composite ร่วง 1.3% มาอยู่ที่ 15,622.72 จากการขาดทุนในหุ้นเทคโนโลยี
ในบรรดาหุ้นต่าง ๆ ที่น่าจับตา นายธนาคารรายใหญ่ได้แรงหนุนจากผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น โดย JPMorgan Chase & Co (NYSE:JPM) เพิ่มขึ้น 3.79%, Citizens Financial Group Inc (NYSE:CFG) เพิ่มขึ้น 4.54% Bank of America Corp (NYSE:BAC) เพิ่มขึ้น 3.92%, Citigroup Inc (NYSE:C) เพิ่มขึ้น 0.78% และ Wells Fargo & Company (NYSE:WFC ) เพิ่มขึ้น 3.98%.
กลุ่มเทคโนโลยีรายใหญ่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากนักลงทุนนำเงินหมุนเวียนไปสู่ภาคอื่น Block Inc (NYSE:SQ) ลดลง 4.69%, Amazon.com Inc (NASDAQ:AMZN) ลดลง 1.69%, Microsoft Corporation (NASDAQ:MSFT) ลดลง 1.71%, Meta Platforms Inc (NASDAQ:FB) ลดลง 0.59%, Twitter Inc (NYSE:TWTR) ลดลง 4.24%, Apple Inc (NASDAQ:AAPL ) ลดลง 1.27% และ Alphabet Inc (NASDAQ:GOOGL) ลดลง 0.41%
ในขณะเดียวกัน บริษัท Tesla Inc (NASDAQ:TSLA) ร่วงลง 4.18% หลังจากพุ่งขึ้น 13% ในช่วงก่อนหน้านี้ ขณะที่ Rivian Automotive Inc (NASDAQ:RIVN) ลดลง 1.29% และ Lucid Group Inc ( NASDAQ:LCID) ลดลง 3.71%
ด้านตลาดตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทน พันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนที่ 1.649%
ในบรรดาข้อมูลที่นักลงทุนควรจับตา ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTs สหรัฐอเมริกา ลดลงเป็น 10.562 ล้านในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้แต่ยังคงใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) ลดลงมาที่ 58.7 จาก 61.1 ในเดือนก่อน ส่งสัญญาณการเติบโตที่อ่อนแอที่สุดของกิจกรรมโรงงานตั้งแต่มกราคม