โดย วณิชชา สุมานัส
Investing.com - บรรยากาศการลงทุนใน ตลาดหุ้นไทย (SET) วันนี้ (14 กันยายน 2564) เปิดตลาดเวลา 10.00 ดันชีหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.14 จุด แต่ 1,639.90 จุด มูลค่าการซื้อขาย 2,603.67 ล้านบาท
ตลาดหุ้นไทยวันนี้เปิดตลาดซื้อขายคึกคัก สาเหตุหลักมาจากได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับขึ้น เหตุมาจากแหล่งผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกยังได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนไอดากระทบการผลิตน้ำมัน โดยราคาน้ำมันดิบสามารถยืนเหนือระดับ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ และทำให้หุ้นพลังงานทั่วโลก และในไทยก็ได้รับอานิสงส์จากตรงนี้ด้วย
สำหรับหุ้นกลุ่มน้ำมันในไทยที่มีมูลค่าการซื้อขายเด่น วันนี้ เวลา 12.23 น. ได้แก่ GULF และ PTTEP ซึ่ง GULF ซื้อขายกันที่ 40.75 บาทต่อหุ้น ลดลง 0.25 บาทต่อหุ้นหรือ 1.21% โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 69.37 ล้านบาท และ PTTEP ซื้อขายกันที่ 111.50 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 3.00 บาทต่อหุ้นหรือ 2.78% โดยมีมูลค่าการซื้อขายที่ 67.74 ล้านบาท
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนตุลาคมในตลาดไนเม็กซ์ เมื่อวานนี้ (13 กันยายน) อยู่ที่ 70.45 ดอลลาร์ต่อบาเรล เพิ่มขึ้น 73 เซ็นต์ หรือ 1.1%
นอกจากนี้ ตลาดยังคาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันในรัฐเท็กซัสอาจจะได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนนิโคลัสที่กำลังก่อตัวรุนแรงขึ้น ประกอบกับความต้องการน้ำมันที่กำลังปรับตัวสูงขึ้น
สำหรับปัจจัยที่ต่อตลาดหุ้นภายในก็ยังเป็นเรื่องการเมืองภายในประเทศ หลังพลเอกประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาย้ำว่า ไม่ได้มีความขัดแข้งกับ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็น Sentiment เชิงบวกให้ตลาดคลายความกังวลเรื่องปัญหาเสถียรภาพของรัฐบาลได้
สำหรับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายเช้านี้คึกคัก วันนี้ เวลา 12.23 น. ได้แก่ KBANK และ AOT โดย KBANK ซื้อขายกันที่ 123.00 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 0.50 บาทต่อหุ้นหรือ 0.82% โดยมีมูลค่าการซื้อขายที่ 150.36 ล้านบาท และ AOT ซึ่งเป็นหนึ่งในหุ้นเปิดเมือง ซื้อขายกันที่ 62.75 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 0.75 บาทต่อหุ้นหรือ 0.81% มีมูลค่าการซื้อขายที่ 126.54 ล้านบาท
ดัชนี mai ปรับขึ้นเพิ่มขึ้น 2.85 จุด หรือคิดเป็นบวก 0.52% ในทิศทางเดียวกัน อยู่ที่ระดับ 552.90 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายที่ 290.94 ล้านบาท และดัชนี SET50 ปรับขึ้นบวก 1.86 จุด หรือคิดเป็นบวก 0.19% อยู่ที่ 983.38 จุด โดยมูลค่าการซื้อขายรวม อยู่ที่ 1,341 ล้านบาท คิดเป็นราว 47.93% ของการซื้อขายทั้งหมด