ความกังวลโควิดทำตลาดหุ้นร่วงต่อเนื่อง ขณะที่ดอลลาร์ทะยานต่อเนื่อง

Investing.com - รอยเตอร์รายงานว่า ตลาดหุ้นเริ่มต้นครึ่งหลังของปีอย่างผันผวน ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดและมาตรการล็อคดาวน์ ขณะที่ตลาดพันธบัตรอยู่ในภาวะทรงตัวและค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้น ก่อนเผยแพร่ข้อมูลแรงงานในสหรัฐ

ตลาดซื้อขายล่วงหน้าในยุโรปส่งสัญญาณดีดตัวขึ้นเล็กน้อย หลังจากการเทขายในช่วงสิ้นเดือน โดยดัชนีซื้อขายล่วงหน้า Euro Stoxx 50 เพิ่มขึ้น 0.4% ในขณะที่ FTSE เพิ่มขึ้น 0.1% ส่วน S&P 500พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์และเพิ่มขึ้นประมาณ 0.15%

ตลาดหุ้นเอเชียหลังจากวันหยุดในฮ่องกง ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นร่วงลง 0.3% และดัชนี MSCI นอกญี่ปุ่นร่วงลง 0.4%

เงินดอลลาร์ขยับขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนที่ 1.1839 ดอลลาร์ต่อยูโร และสูงสุดในรอบ 15 เดือนที่ 111.18 เยน

“โควิดยังคงมีบทบาท แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะเห็นทิศทางอะไรมากในตอนนี้” ร็อบ คาร์เนล นักเศรษฐศาสตร์ของ ING กล่าว "ทุกคนต่างกระวนกระวายใจเล็กน้อย"

ในประเทศจีน ตลาดหุ้นตอบรับการครบรอบ 100 ปีของพรรคคอมมิวนิสต์ด้วยการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย  แต่คำปราศรัยจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ไม่ได้ช่วยบรรเทาความตึงเครียดทางการเมืองและทำให้ค่าเงินหยวนอ่อนลงเล็กน้อย

ข้อมูลในฝั่งเอเชียยังคงมีความหลากหลาย โดยความเชื่อมั่นของผู้ผลิตในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบสองปีครึ่ง แต่กิจกรรมของโรงงานทั่วทั้งภูมิภาคชะลอตัวลง โดยเฉพาะในเวียดนามและมาเลเซีย  จากการแพร่ระบาดของโควิด

ยอดค้าปลีกของเยอรมันพลิกความคาดหมาย

อัตราการฉีดวัคซีนที่ช้าลงในเอเชียและการขยายข้อจำกัดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด รวมถึงการปราบปรามตามกฎระเบียบกับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีน ทำให้ตลาดในภูมิภาคล้าหลังในปีนี้

ดัชนี MSCI Ex-Japan ปิดตัวลงในช่วงครึ่งปีแรกโดยเพิ่มขึ้น 5.8% เมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้นของดัชนีหุ้นทั่วโลกที่ 11.4% และเพิ่มขึ้น 14.4% สำหรับดัชนี S&P 500 ซึ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นครั้งที่ห้าเมื่อช่วงสิ้นเดือนที่แล้ว

จับตาดูข้อมูลการจ้างงาน

นักลงทุนกำลังจับตาดูตัวเลขผู้ว่างงานในสหภาพยุโรป การประชุมของธนาคารแห่งประเทศสวีเดน และการปรากฏตัวของแอนดรูว์ เบลีย์จากธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ รวมถึงคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป เพื่อคาดการณ์ทิศทางในการซื้อขาย

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลการจ้างงานในสหรัฐที่จะประกาศในวันพรุ่งนี้ เป็นสิ่งที่นักลงทุนคาดว่าจะกำหนดทิศทางตลาดจากความซบเซาที่ทำให้การซื้อขายสกุลเงินอยู่ในกรอบแคบที่สุดในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา

เมื่อคืนนี้ การซื้อขายเงินดอลลาร์/เงินเยนมีความผันผวนมากที่สุดในรอบกว่าสามเดือน

ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐออกมาดีเกินความคาดหมาย แม้ว่ามันจะเป็นตัวเลขที่ไม่มีนัยสำคัญต่อรายงานที่จะประกาศในวันพรุ่งนี้

นักเศรษฐศาสตร์ของรอยเตอร์คาดว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 700,000 ตำแหน่งในเดือนมิถุนายน  จาก 559,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม แต่ค่าความผันแปร 63 เป็นช่วงประมาณการณ์ที่กว้างมาก ตั้งแต่ 376,000 ไปจนถึงมากกว่าหนึ่งล้านตำแหน่ง

นักวิเคราะห์จาก DBS Bank ในสิงคโปร์กล่าวว่า "ดัชนีดอลลาร์จะทำลายสถิติที่ 93.4 จุด เว้นแต่รายงานการจ้างงานรายเดือนจะออกมาน่าผิดหวัง"

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ แตะระดับ 92.483 ในช่วงการซื้อขายของตลาดเอเชีย ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีทรงตัวที่ 1.4696%

ในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาโลหะมีค่าดูเหมือนจะทรงตัวที่ระดับต่ำกว่าจุดสูงสุดของเดือนพฤษภาคม ส่วนราคาน้ำมันขยับขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบหลายปีเมื่อต้นสัปดาห์

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ล่าสุดเพิ่มขึ้น 0.1% อยู่ที่ 74.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าข้าวโพดดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วภายในชั่วข้ามคืน เนื่องจากปริมาณผลผลิตในสหรัฐต่ำกว่าที่คาดไว้