หุ้นเอเชียปรับตัวขึ้น เฟดยึดมั่นในความเห็น คลายกังวลนักลงทุน

โดย Gina Lee

Investing.com – หุ้นเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นในเช้าวันนี้ ด้วยความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่เฟดเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อและนโยบายการเงิน ที่เริ่มคลายความกังวลใจของนักลงทุน

ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่น ขยับขึ้น 0.16% เมื่อเวลา 22:11 น. ET (2:11 น. GMT) โดยธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นได้เผยแพร่ รายงานการประชุมนโยบายการเงิน ก่อนหน้านี้  นอกจากนี้ ยังได้เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ภาคการผลิต และ ภาคบริการ ประจำเดือนมิถุนายน โดยดัชนีเดิมต่ำกว่าคาดที่ 51.5 จุด

ดัชนี KOSPI ของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 0.28% ในขณะที่ในออสเตรเลีย ดัชนี ASX 200 ลดลง 0.41%

ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงเพิ่มขึ้น 0.78%

ดัชนี Shanghai Composite ของจีนลดลง 0.02% ขณะที่ ดัชนี Shenzhen Component เพิ่มขึ้น 0.38%

ดัชนี S&P 500 ไต่ขึ้นเป็นวันที่สอง เนื่องจากประธานเฟดยืนยันว่า แรงกดดันเงินเฟ้อที่มากกว่าที่คาดไว้เมื่อเร็ว ๆ นี้จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว

SET ไทย เปิดตลาดในแดนบวก ซื้อขายอยู่ที่ระดับ 1,603.60  จุด เพิ่มขึ้น 4.37 จุด 

ดัชนี ดอลลาร์ และผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐก็ลดลงเช่นกัน ขณะที่ราคา Bitcoin ดีดตัวขึ้นจากการร่วงลงต่ำกว่าระดับ 30,000 ดอลลาร์

ในที่สุดตลาดก็เริ่มทรงตัวหลังจากที่เฟดมีท่าทีกระเตื้องขึ้นอย่างกะทันหันจาก การตัดสินใจด้านนโยบายล่าสุด ที่สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุน ด้วยการบ่งบอกถึงการลดสัดส่วนสินทรัพย์และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด แต่เจ้าหน้าที่เฟดพยายามสร้างความมั่นใจว่าจะสนับสนุนเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องผ่านการซื้อสินทรัพย์และคงอัตราดอกเบี้ยต่ำเอาไว้

"การเปลี่ยนท่าทีของเฟดในช่วงก่อนหน้า โดยรับทราบถึงอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น “ภาพสะท้อนของการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในระยะยาว” นักวิเคราะห์ของ BlackRock Investment Institute นำโดยฌอน โบลวิน กล่าวในรายงาน

“เราเชื่อว่าแนวโน้มใหม่ของเฟดจะไม่ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเร็ว ๆ นี้ เมื่อรวมกับการเปิดภาคเศรษฐกิจอันแข็งแกร่ง จะช่วยหนุนจุดยืนของเราที่มีต่อความเสี่ยง” รายงานกล่าวเสริม

ในแถลงการณ์ของพาวเวลล์ต่อหน้าคณะอนุกรรมการคัดเลือกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ เขากล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาเมื่อเร็ว ๆ นี้มากกว่าที่คาดไว้ แต่ยืนยันว่าราคาดังกล่าวมีแนวโน้มลดลง  นอกจากนี้ เขายังตระหนักถึงความไม่แน่นอนและกล่าวว่า เฟดจะอดทนต่อต้นทุนการกู้ยืมที่เพิ่มขึ้น

ก่อนที่พาวเวลล์จะแถลงการณ์ นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดแห่งนิวยอร์กกล่าวว่า การหารือเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังคงเป็น “ทางออกในอนาคต” ในขณะเดียวกัน นายลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดแห่งคลีฟแลนด์กล่าวว่า การจ้างงานที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้าจะเป็นตัวกำหนดเบื้องต้นในการประเมินว่า เศรษฐกิจสหรัฐบรรลุความก้าวหน้าที่จำเป็นในการเริ่มลดสินทรัพย์ลงหรือไม่ ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดรายอื่น ๆ จะแสดงความคิดเห็นตลอดทั้งสัปดาห์นี้

นอกจากนี้ เฟดจะเปิดเผยข้อมูล การทดสอบภาวะวิกฤตภาคธนาคาร ในวันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่ ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ ได้ประกาศผลการตัดสินใจเชิงนโยบายไปก่อนหน้านี้แล้ว

ในด้านข้อมูลอื่น ๆ ยอดขายบ้านใหม่ ในสหรัฐสำหรับเดือนพฤษภาคมและ ดุลบัญชีเดินสะพัด สำหรับไตรมาสแรกจะเปิดเผยในช่วงสิ้นวันนี้