รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

3 ปัจจัยที่ต้องจับตา: ผลประชุมเฟดส่งผลกระทบใดต่อตลาดบ้าง?

เผยแพร่ 17/06/2564 06:48
© Reuters.

โดย Dhirendra Tripathi

Investing.com -- ตลาดหุ้นอเมริการ่วงยับ ถึงแม้จะรีบาวด์ขึ้นมาได้เล็กน้อยก่อนปิดตลาด หลังจากมีการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดของเฟดซึ่งคงตัวในระดับเดิม แต่มีการชี้ว่าอาจมีการปรับขึ้นในเวลาอนาคต 

หุ้นวัฏจักรซึ่งมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวควบคู่กับเศรษฐกิจที่กำลังดีขึ้นก็ร่วงลงเช่นกัน แม้ว่าหุ้นกลุ่มการเงินจะรักษาระดับไว้ได้เนื่องจากราคาหุ้นธนาคารต่าง ๆ เพิ่มขึ้น บริษัททางการเงินเหล่านี้จะได้กำไรมากมายหากอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น  

การประกาศของเฟดได้ส่งผลกระทบต่อทั้งตลาดที่มีความไม่นอนในช่วงหลายวันที่ผ่านมา อีกปัจจัยหนึ่งอาจเป็นข้อสรุปของการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย

ไบเดนกล่าวกับผู้สื่อข่าวในสวิตเซอร์แลนด์หลังการประชุมว่า เขาบอกกับปูตินว่า "เราจำเป็นต้องมีกฎพื้นฐานเกี่ยวกับแผนการที่ตกลงกันไว้" รวมถึงเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ควรมีการโจมตีทางไซเบอร์ และเสริมว่า เขาได้เรียกร้องให้ปูตินเคารพสิทธิมนุษยชนด้วย 

ต่อไปนี้ คือ 3 ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดในวันนี้:

1. ผลกระทบจากเฟด

ตลาดตอบสนองในเชิงลบหลังจากที่เฟดรักษาอัตราดอกเบี้ยและสัดส่วนการซื้อพันธบัตรรายเดือนให้คงที่ แม้ว่าจะส่งสัญญาณว่า อาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสองครั้งภายในสิ้นปี 2023 ความระแวดระวังของนักลงทุนอาจดำเนินต่อไปในวันนี้ แต่ตลาดได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่ามีความยืดหยุ่นก่อนที่จะเผชิญกับข่าวที่เหนือความคาดหมาย

2 การขอรับสวัสดิการว่างงาน

เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดกล่าวว่า เขาคาดว่าจะมีการจ้างงานมากขึ้นในช่วงฤดูร้อน วันนี้จะมีข้อมูลรายสัปดาห์ที่สนับสนุนมุมมองดังกล่าว จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง ซึ่งเป็นตัวชี้วัดผู้ที่ได้รับสวัสดิการว่างงานในช่วงระยะเวลาหนึ่ง คาดว่าจะลดลงเหลือ 3.430 ล้านรายในสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 12 มิถุนายน จาก 3.499 ล้านรายในสัปดาห์ก่อนหน้า

จำนวนบุคคลที่ยื่นขอรับสวัสดิการ การว่างงาน ครั้งแรก ลดลงเหลือ 359,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 5 มิถุนายน น้อยที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตโควิด และพุ่งแตะ 376,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า ตัวเลขทั้งสองจะประกาศในเวลา 8:30 น. ET (12:30 GMT)

3. รายได้ของ Kroger 

ผู้บริโภคต่างสังเกตเห็นราคาอาหารและของใช้ในบ้านอื่น ๆ ที่ปรับตัวสูงขึ้น ในขณะเดียวกัน ผู้ค้าปลีกต้องเผชิญกับค่าแรงที่สูงขึ้นและการขาดแคลนแรงงาน ผู้ค้าปลีกอาหารรายใหญ่อย่าง Kroger Company (NYSE:KR) จะรายงานตัวเลขรายได้ล่าสุดในวันพรุ่งนี้ นักวิเคราะห์ที่ติดตามโดย Investing.com คาดว่ากำไรต่อหุ้นสำหรับไตรมาสแรกจะอยู่ที่ 98 เซนต์ จากรายรับที่ 39.56 พันล้านดอลลาร์



ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย